สวัสดีครับ หลังจากห่างหายกันไปแรมปีกับ บทความรีวิวของ admin คนเดิมเพิ่มเติมคือวันนี้ เราจะมา รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ และ บ่น …. กับเกม แห่งการรอคอยยยย Final Fantasy XV ของเหล่าบอยแบนแห่ง ราชวงค์ Lucis นั่นเองง (เล่นใหญ่ ให้สมกับความเวอร์วังของตัวเกม)
พูดถึงเรื่องย่อๆ ของเรื่องราว FF XV (ขอใช้ตัวย่อนี้ต่อไปในบทความละกันนะครับ)
ต้องอ้างถึงก่อนว่าในเกมนี้ จะแบ่งเป็นสองขั้วอำนาจ นั่นคือ ฝั่งของ อาณาจักร Lucis ที่เป็นผู้ปกป้องดูแลคริสตัล หรือ อาณาจักรที่ ใช้เวทมนต์ต่างๆนาๆ นั่นเองครับ ส่วนอีกด้านก็คือ อาณาจักร Niflheim เป็นอาณาจักร ที่เป็นผู้เชี่ยวขาญด้านเทคโนโลยี และเครื่องจักรกล
การต่อสู้ของทั้งสองอาณาจักรก็กินเวลามาพอสมควร จนสุดท้าย อาณาจักร Lucis ก็ต้านทานเริ่มไม่ไหว เลยแอบส่งเจ้าชาย Noctis และเหล่าสหาย ออกนอกอาณาจักรไปก่อนที่จะเกิดเหตุร้าย ซึ่งทำให้ อาณาจักร Lucis ล่มสลาย ซึ่งเป็นเรื่องรายก่อนที่เข้าตัวเกมนั่นเองครับ
เราก็จะรับบทเป็น เจ้าชาย Noctis ซึ่งต้องมีหน้าที่กอบกู้ ราชบัลลังค์ และทวงคืนทุกสิ่งที่เสียไปกลับมา ปั๊บปะด้า ปา ปา ด้าาาา

เข้าสู่โหมดของการรีวิว (No spoil)
Story
ด้านเนื้อเรื่องนั้นถ้าจะกล่าวกันจริงๆ แล้ว ตัวเกมนั้น เนื้อเรื่องเรียกได้ว่า เบาบาง มาก ถ้าเทียบกับ Animation ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ทีว่ากล่วงแล้ว เนื้อเรื่องภาคนี้ ยิ่งกลวงหนักไปกว่าเดิม ซึ่ง admin ไม่ปลื้มจุดนี้พอสมควร ทั้งๆ ที่มีสเกลเรื่องราวต่างๆ ที่สามารถเอ่ยถึงจะเล่าได้ดีกว่านี้
เอาง่ายๆ บางตัวละครที่โผล่มา ในตอนแรก มันคือตัวสำคัญแน่ๆ ออกมาขนาดนั้น แต่พอเล่นจนจบ มันหายไปไหน = = ไม่มีกล่าวถึงปล่อย คนเล่นงงงวย แถม ตัวละครบางตัว บทจะดีก็ดี บทจะร้ายก็ร้าย
แต่ก็ไม่ใช่เนื้อเรื่องมันจะห่วยขนาดนั้นนะครับ แต่เอาง่ายๆ ถ้าคุณไม่ได้ดู Animation เรื่อง Kingsglaive: Final Fantasy XV มาก่อน 50% ของเนื้อเรื่อง คุณจะงงแบบหาทางออกไม่เจอ อะไรคือ Old world อะไรคือแหวนแห่ง lucis ไอ้นี่คือใคร ไอ้นั่นเป็นยังไง ….
และฉากจบที่ …… WTF i don’t understand …….

Game play
ในตอนแรกที่ คุณ ทาบาตะ โปรดิวเซอร์เกมนี้ มาบอกว่า จะเปลี่ยนระบบเกมเป็น action RPG เต็มตัวตามยุคสมัย เหล่าแฟนบอย หรือคนที่ไม่ได้เป็นแฟนเกมก็เกิดข้อสงสัย ว่า เอะมันจะดีหรอ ไฟนอลมันจะเป็น action ได้ยังไง

แต่ผมขอบอกเลยครับว่าเกมเพล คือจุดแข็งของเกมภาคนี้ แต่ในจุดแข็งก็มีจุดอ่อนอยู่
ระบบต่อสู้เข้าใจง่าย คอมโบกับเพื่อนได้สนุก เกมไม่ยากหรือไม่ง่ายจนเกินไป ถ้าคุณชอบเกม action คุณก็จะชอบเกมนี้
แต่จุดที่ทำให้ความสมบูรณ์ของระบบนี้พังก็คือมุมกล้องครับ ใช่แล้วมุมกล้อง ถ้าตีเป็น 100% 40% ของการเล่น ผมดูไม่ออกว่า พระเอกหัวตั้งของเราทำอะไรอยู่ ต้นไม้บังบ้าง มุมมองแคบบ้าง หรือแบบ คู่ต่อสู้ตัวใหญ่ไปบ้าง ( ลองเล่นไปจนถึงไปตี เต่าไซด์ใหญ่ แบบ adamantoise 2 ชั่วโมงโดยที่มองไม่ออกว่าทำอะไรอยู่แล้วจะเข้าใจครับ T__T ผมลองมาแล้ว )

ส่วนเกมที่ออกแบบมาเป็น Open word คือทำได้ดีนะครับ แผนที่หลากหลาย เป็นส่วนที่ดีที่สุดของเกมละ
ส่วนครึ่งเกมหลัง โดยเฉพาะบาง chapter ทำเอาอยากเลิกเล่นไปกลางคันเลยก็มี
และที่เด็ดที่สุด ก็คือ บรรดา ดันเจี้ยนทั้งหลายในเกมครับ เล่นเกมจบอย่าพึ่งจบ ปลดล๊อคดันเจี้ยนลับแล้วไปลุย นี่ซิคือ เกมจริงๆ (story mode คือของแถมซินะ)
graphic & performance
กราฟฟิคคือก็สวยนะครับ รวยในระดับ game openword ควรจะเป็น แต่ ถ้าเทียบกับ game ex ps4 จริงๆ เช่น Uncharted 4 ผมบอกเลยว่ายังห่างชั้นกับ uncharted หลายขุมครับ
ส่วนเรื่อง BUG ผมไม่พูดถึงมาก เอาเป็นว่า ถ้าคุณเคยเล่น assasin’s creed unity ก่อนที่จะมีการอัพเดท แล้วเป็นยังไง เกมนี้ก็ประมาณนั้นครับ 555 แต่ส่วนใหญ่เป็นบัคเอาตลกๆ เช่น อยู่ๆ เพื่อนก็โดนรถชน หรือเดินตกเหวไปเองทั้งกลุ่ม เข้าฉากต่อสู่แล้วออกไม่ได้ ต้องรีสตาร์ท checkpoint บลาๆ
โดยสรุปนะครับ
ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ปนๆ กันไป ก็ถือเป็นเกมดีแหละครับไม่ได้แย่ เพียงแต่คุณต้องลดความคาดหวังว่ามันจะคือยอดเกมส์ เข้าชิง game of the year ทิ้งไป แล้วก็สนุกกับมันครับ
8/10 ในฐานะแฟนบอย ..
7/10 สำหรับตัดคะแนนความเสน่ห์หาส่วนตัวครับ