Assassin’s creed Odyssey ได้พาผู้เล่นย้อนยุคกลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ ในยุคกรีกโบราณ 5 ศตวรรษก่อนคริสตศักราช เป็นช่วงเวลาก่อนที่จะมีเหล่าพี่น้องมือสังหารในอิยิปต์ เกมจะวางจำหน่ายวันที่ 5 ต.ค. ปีนี้ บน Xbox One PS4 และ PC ในภาค Odyssey เราสามารถเลือกเล่นเป็นชาวสปาตั้นที่ผันตัวมาเป็นทหารรับจ้างได้โดยเลือกเป็นได้ทั้ง Alexios หรือ Kassandra ผู้เล่นมีอิสระที่จะกำหนดโชคชะตาของตนเองในสงคราม Peloponnesia
เริ่มด้วยการตัดสินใจว่าจะเลือกเป็นมือสังหารแบบไหน ในภาค Odyssey ได้ให้ผู้เล่นได้เลือกเส้นทางในการดำเนินเรื่องเอง โดยมีบทสนทนามาให้ สามารถเลือกได้ว่าจะรับหรือปฏิเสธการมีพันธมิตร จากต้นตอของหอกแห่งเลโอไนดัส (Spear of Leonidas) สิ่งประดิษฐ์ลี้ลับที่กลุ่มผู้มาเยือนกลุ่มแรก (First Civilization) ได้ให้ไว้ จะทำให้เราสามารถปลดล็อกความสามารถเหนือธรรมชาติใหม่ ๆ ที่จะให้เราได้ท่องโลกในยุคกรีกได้ ไม่ว่าจะเป็นการล่าศัตรูอย่างลับ ๆ การได้พบเห็นกับรูปปั้นในประวัติศาสตร์อันโด่งดัง การได้พบเจอกับเรื่องเล่าในตำนาน การต่อสู้ในสงครามขนาดใหญ่ระหว่างชาวเอเธนกับชาวสปาตั้น
เกมในยุคกรีกโบราณจะเป็นเกม Open World ขนาดมหึมา โดยเกือบครึ่งของเกมจะอยู่บนผืนน้ำ ประกอบกับภูมิทัศน์ที่หลากหลายของภูเขา เมือง ป่า และ ชายหาด ด้วยสิ่งเหล่านั้น Odyssey จะนำพาระบบร่องเรือแบบ Open world ให้กลับมา ให้เราได้เป็นผู้คุมหางเสือเรือรบ Trireme (จขบ.เรือรบแบบโบราณ) และทำให้เราจมดิ่งอยู่กับการไล่ล่าโจรสลัดและเหล่าผู้คุกคามด้วยความรวดเร็วจากพลังของเหล่าลูกเรือ ไม่เพียงแต่สามารถปรับแต่งเรือได้เท่านั้น แต่ยังสามารถจ้างลูกเรือที่มีความสามารถเฉพาะด้านได้ด้วย สามารถชักชวนทั้งพันธมิตรและศัตรูให้มาเป็นส่วนหนึ่งของเรือเพื่อเพิ่มมูลค่าและความสามารถของคนเหล่านั้นลงไปในบัญชีลูกเรือของเรา เรายังสามารถดำน้ำลงไปใต้คลื่นทะเลเมื่อไรก็ได้เพื่อค้นหาซากปรักหักพังใต้น้ำและเปิดฉากต่อสู้กับปลาฉลาม
ในภาคOdyssey ยังคงใช้ความสามารถของภาค Origins ที่มีอยู่นั่นคือไม่เพียงแค่ให้เราค้นพบอาวุธที่หลากหลายเท่านั้น แต่ยังให้เราสามารถ ครอบครองและปรับแต่งหมวกสวมหัว เกราะหุ้มอก เข็มขัด สนับมือ ปลอกแขน แต่ละอย่างจะทำให้รูปลักษณ์และค่าสถานะ (stat) ของการเป็นทหารรับจ้างของเราเปลี่ยนไป

Assassin’s Creed Odyssey มีหลายรูปแบบให้เลือกทั้งแบบ Standard Deluxe Gold และ Ultimate Edition แบบ The Deluxe Edition จะได้รับอุปกรณ์ติดตัวและอุปกรณ์สำหรับร่องเรือเสริมพิเศษ และได้ค่าประสบการณ์ (XP) และเงินเพิ่ม สำหรับแบบ Gold จะได้รับ Season Pass และได้รับสิทธิ์ในการเข้าเล่นเกมก่อนใครในวันที่ 2 ต.ค. 61 สำหรับแบบ Ultimate จะได้รับทั้งหมดที่มีในแบบ Deluxe และ Gold ได้เข้าเล่นเกมในวันที่ 2 ต.ค. 61 และสำหรับใครที่สั่งจองล่างหน้าจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าเล่นภารกิจเสริมเพิ่มเติมคือ “The Blind King”
Assassin’s Creed Odyssey จะวางจำหน่ายบน Xbox One PS4 และ PC ในวันที่ 5 ต.ค. 61 และจะมีการปรับปรุงระบบสำหรับเครื่องเล่น Xbox One X และ PS4 Pro ด้วยเช่นกัน สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมติดตามต่อได้ในงาน E3 2018
ที่มา : UbiBlog
ปล. โอ้โห…มาแบบใหม่มาเลยค่ะ ระบบเกมท่าทางจะมีทั้งส่วนที่เหมือนและมีทั้งส่วนที่ต่างจากภาคเก่า ๆ หลายอย่างเหมือนกันนะคะ เพื่อน ๆ ที่ได้ดูตัวอย่างแล้วคิดว่ายังไงกันบ้างคะ
ปล. 2 ถ้า จขบ. แปลผิดหรือพิมพ์ผิดตรงไหนทักได้นะคะ (พอดีแปลแบบงานรีบ แหะแหะ)