เก็บตก Assassin’s creed IV Black flag กับ Jean Guesdon

บทสัมภาษณ์นี้มาจาก GameInformer นะคะ เจ้าของบล็อกอ่านแล้วเห็นว่าน่าสนใจมาก เลยนำมาแบ่งปันค่ะ อ่านแล้วขัดใจตรงไหนอยากจะให้เสริมหรือเพิ่มเติมก็คอมเมนต์เอาไว้ที่ด้านล่างนะคะ 😀

แม้ว่า Edward จะสวมฮูดและมี hidden blade เหมือนมือสังหารคนอื่น ๆ แต่ในภาค Black Flag เนื้อเรื่องดูเหมือนจะแหวกแนวทางเดิม ๆ ของเกมไปมาก เกมเน้นไปที่เรื่องของการเก็บเงินทองและความสำเร็จมากกว่าภาคอื่น ๆ เรื่องราวในแบบโจรสลัดดูเหมือนจะเป็นแนวทางใหม่ของเกม Assassin’s creed ทางเกม GameInformer ได้สัมภาษณ์ creative director ของเกมคุณ Jean Guesdon เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายที่เกิดขึ้นในการทำเกมภาคนี้

Edward ดูจะเป็นคนที่สนใจแต่เรื่องของตัวเองมากกว่าพระเอกคนอื่นของเกม แล้วเขาได้รับเสียงตอบรับจากแฟน ๆ อย่างไรบ้างเมื่อเทียบกับพระเอกคนอื่น ๆ ที่ผ่านมา

เรารู้สึกยินดีมากที่เหล่าแฟน ๆ เกมตอบกลับมาว่า Edward นั้นเป็นพระเอกคนแรกที่ไม่ใช่ Assassin เราคิดว่าเราจี้ถูกจุดแล้วในการที่จะนำเสนอเรื่องราวที่แท้จริงของโจรสลัด เขาไม่อาจเป็น Assassin ได้ตั้งแต่เริ่มต้นหรอก และเป็นการเปิดช่องให้เราได้มีเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์คนหนึ่ง ที่เขาได้ค้นพบตัวเองว่าเขามีคุณค่ามากกว่าที่เขาคิด

kzg_aciv_artwork3

จากผลตอบรับในด้านดีเกี่ยวกับเรื่องของ Homestead ในภาค 3 (เจ้าของบล็อก—บ้านของ Connor ที่อยู่กับ Achilles ค่ะ) อะไรที่ทำให้บ้าน (Hideout) ในภาคนี้มันดูมีความสำคัญน้อยลง

ในภาค Black Flag เราตัดสินใจกันแล้วตั้งแต่ต้นว่าจะให้เรือ Jackdaw เป็นสิ่งสำคัญหลัก ๆ ในการอัพเกรด มันก็สมเหตุสมผลอยู่แล้วในมุมมองของกัปตันนักเดินเรือ แต่เรารู้ดีว่ามีนักเล่นเกมหลาย ๆ คนชอบที่จะพัฒนาที่ดิน มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมยังคงมีบ้านเป็นส่วนหนึ่งในภาค Black Flag ที่จริงแล้วมันมีหลายอย่างมากเกินไปที่จะต้องดูแล (เช่น Jackdaw ,Edward , Fleet , บ้าน…)  เราคิดว่าสำหรับบ้านแล้วมันก็เพียงพอแล้วสำหรับการอัพเกรด

ในภาคนี้ผู้เล่นมีกิจกรรมให้ทำเป็นกองเลย คุณมีวิธีการอย่างไรในการสร้างพวกเนื้อเรื่องเสริมโดยไม่ทำให้ผู้เล่นมีความรู้สึกว่ามันมีมากเกินไป

เราคิดว่าตราบใดที่พวกภารกิจเสริมนั้นมันเข้ากันได้กับสภาพแวดล้อมผู้เล่นก็จะยอมรับได้ เราไม่ได้แค่จับเอาพวกภารกิจเหล่านั้นสักแต่ว่าโยนใส่เข้าไปเพื่อให้มันดูเยอะเฉย ๆ ทุกอย่างมันเกี่ยวกับ “กิจกรรมเหล่านี้มันทำแล้วสนุกไหม มันเข้ากันกับผู้เล่นและตัวละครไหม” สุดท้ายแล้วผู้เล่นก็จะตัดสินเองหากว่าพวกเขาอยากจะทำภารกิจเหล่านี้ งานของเราก็คือการมอบสิ่งที่คิดว่าพวกเขาน่าจะสนุกไปกับมันได้ เมื่อคุณชอบอะไรบางอย่าง มันไม่มีคำว่า”มากเกินไป” หรอก

การตามเก็บ Sea shanty (แผ่นเพลง) เป็นหนึ่งในหลาย ๆ อย่างที่น่าเก็บสะสมมาก แล้วพวกเพลงเหล่านี้มาจากไหน

ผู้กำกับเสียงสุดเจ๋งของเราคุณ Aldo Sampaio และหัวหน้าทีมเขียนบทคุณ Darby McDevitt ได้ทำการค้นคว้าเรื่องเพลงพวกนี้เพื่อใช้เป็นเสียงเพลงสำหรับบรรยากาศในเกม พวกเขาตื่นเต้นกับมันก็เลยไปหาทีมออกแบบเพื่อที่จะให้ช่วยหาวิธีที่จะทำให้เพลงเหล่านี้มีความสำคัญมากขึ้นในเกม แล้วเราก็นึกขึ้นได้ว่าในภาค 3 มันมีแผ่นกระดาษลอยได้ (flying pages) มันน่าจะเหมาะเจาะทีเดียว สำหรับผม นี่มันคือตัวอย่างที่ดีเยี่ยมของที่มาของไอเดียต่าง ๆ จากการค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องประวัติศาสตร์ในเกมของเรา มันสามารถประสานกลมกลืนไปกับระบบการเล่นในแบบมือสังหารและโจรสลัด (ใช้การ free-run ในการตามเก็บแผ่นเพลงและให้ลูกเรือได้ร้องเพลงในขณะที่เดินเรือในทะเล) ทีมงานตกหลุมรักสิ่งนี้ทันทีและเราก็รู้ดีว่าสิ่งนี้จะออกมาประสบความสำเร็จ

kzg_taketouracivbf5

ภารกิจการแอบติดตามและการดักฟังในภาคนี้มีมากเหลือเกินจนถูกบ่น เคยกังวลเกี่ยวกับสิ่งนี้บ้างไหมตอนที่ทดสอบระบบเกม

เราพูดเสมอว่าเราอยากให้การหลบซ่อน (stealth) มันกลับมาในภาค Black Flag  และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงมีภารกิจแบบหลบซ่อนและดักฟังอยู่ในภาคนี้ ภารกิจเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของเกมตระกูล Assassin’s creed การทดสอบระบบการเล่นได้ให้ข้อมูลอันมีค่าแก่เราเสมอในการที่จะทำให้พวกเขารู้สึกสนุกสนานและท้าทายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยความสัตย์จริง เรารู้ดีกว่าผู้เล่นเกมของเราบางคนมักจะชอบการต่อสู้มากกว่า แต่เราคิดว่าภารกิจเหล่านี้นั้นมันก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับจังหวะของเกมเช่นกัน มันทำให้เกิดความหลากหลายจากบนบกสู่บนทะเล จากการหลบซ่อนสู่การต่อสู้

ภาคนี้มีการเปลี่ยนแปลงคือในระหว่างการต่อสู้ Edward ไม่สามารถเรียกพรรคพวกมาช่วยได้ วิธีการแบบนั้นมันง่ายเกินไปหรืออย่างไรจึงไม่นำมาใช้ด้วย

ประเด็นหลักของเราก็คือการสร้างอะไรที่มันเข้ากันได้กับสภาพแวดล้อมและตัวละครหลักของเกม จากการที่ออกแบบให้ Edward เป็นโจรสลัดตั้งแต่แรก มันไม่ค่อยจะเข้าท่าที่จะให้เหล่ามือสังหารตามไปช่วยเหลือเขาทุกหนทุกแห่งที่เขาไป เราคิดว่า การให้ลูกเรือตามไปช่วยเขาในระหว่างการรบทางทะเลหรือการยึดป้อมมันดูน่าสนใจมากกว่า อย่างที่บอกว่า การจะใช้รูปแบบไหนนั้นมันอยู่บนพื้นฐานของการเข้ากันได้กับตัวเกม เราไม่จำเป็นต้องมีบางอย่างเพราะว่าเราเคยมีมันมาก่อนหรอก

AC4BFC

การนำเอา naval battle มาใส่ใน multiplayer ด้วยมันน่าจะเข้ากันได้นะ แล้วเรื่องนี้คุณไม่ได้นำเอามันมาทดลองด้วยเหรอ

เราไม่เคยปิดบังเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ๆ เลยที่เราพยายามจะทำมัน เราก็เหมือนหลาย ๆ คนนั่นแหละที่อยากจะให้สิ่งนี้มันมีอยู่ในเกมด้วย ตอนที่ทำตัวต้นแบบตัวแรกออกมา เรามองเห็นแล้วคิดว่าเราไม่มั่นใจเต็มร้อยว่ามันจะสามารถทำออกมาได้ตามที่เรากำหนดไหม นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงให้ความสำคัญไปที่การเล่นแบบเดี่ยวมากกว่าในขณะที่เรากำลังพัฒนาในส่วนของ multiplayer ในห้องทดลอง เราคิดว่าสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับระบบ multiplayer เช่นกัน

kzg_manifesto
Manifesto of the Instruments of the First Will

ในภาค Black Flag มีเรื่องของ (Manifesto of) the Instruments of the First Will  นี่มันเหมือนเป็นสัญญาณอะไรบางอย่างที่บ่งบอกถึงแนวทางของเนื้อเรื่องเกี่ยวกับโลกในปัจจุบันของเกมที่กำลังจะมาใหม่ต่อไปไหม

เราได้เปิดกว้างโดยวางเรื่องราวให้ประติดประต่อกันได้เอาไว้ในส่วนของโลกปัจจุบันว่าเราจะเล่นกันแบบไหน แต่อย่างที่บอกว่าโลกในปัจจุบันแบบ “ใหม่” ในเกมคือโลกของเราจริง ๆ อย่างที่คุณได้เห็นใน ACinitiates.com มาแล้ว เรามีจุดหลาย ๆ จุดในส่วนของปัจจุบัน เราจะทำให้เนื้อเรื่องในส่วนของปัจจุบันมัน “ต่อเนื่อง” มากขึ้นไปอีกในอนาคต

ที่มา (Source) : GameInformer

16 comments

  1. ตอบแบบคนยังเล่นไม่จบนะครับ

    เนื้อเรื่องของ edward ที่ผมเล่นถึงเนี่ย เงินๆทองๆทั้งน้านนนน ไม่มีอย่างอื่นเจือปน ก็เพราะชีวิตล้มเหลวเนี่ยแหละ เลยผลักดัน edward ไปทางนั้น ไปเจอ templar กะ assassin ก็ตามน้ำไม่ก็เอาตัวรอดไปก่อน ยังหาประเด็นไม่เจอ

    ภารกิจเสริมภาคนี้ผมใช้ความละเอียดมากที่สุดในการเล่น ผลลัพธ์ที่ได้คือรู้สึกว่าอยากให้มากกว่านี้อีกหน่อย แต่แบบ Assassin contract แบบไม่จำกัดแบบภาค 2 ก็ไม่ไหว อยากได้แบบ templar key กับ mayan stone เหมือนเป็นเนื้อเรื่องเล็กๆ ขนานไปกับเนื้อเรื่องหลัก

    ภารกิจดักฟังมันก็โอเค แต่การหาข้อมูลเนี่ย บางทีมันก็ไม่ได้มีแค่วิธีเดียวนี่นา

    จริงๆเกมมันดีแบบมีที่ติน่ะครับ ผมมีติแค่ AI แค่อย่างเดียวแหละ

    – ถ้าคุณเดินอยู่กับเพื่อน อยู่ดีๆเพื่อนคุณหายไป จะสงสัยเลยเหรอ?
    – ถ้าเดินยามอยู่แล้วไอ้คนที่เดินผ่านมันค่อยๆหายไปทีละคน จะไม่สงสัยหน่อยเหรอ?

    อะไรเงี้ยครับ ยังมีอีกแต่ลืมๆไปแล้ว…

  2. งงกับไอ Manifesto of the Instruments of the First Will มากว่ามันคือสัญลักษณ์อะไร เพิ่งเก็บ note ครบเมื่อคืน นั่งดูอยู่ๆนานสองนาน ง่วง

    • มันคือสัญลักษณ์ของ Juno ค่ะ เดี๋ยวว่าง ๆ จะสรุป sticky note ทั้งหมดลงบล็อกค่ะ แต่ยังอีกนาน (sticky note มันอ่านแล้วชวนงงมากมาย :D)

  3. เรื่องภารกิจดักฟัง/สะกดรอย
    -จริงๆมีแบบนี้ก็ดีตรงที่ว่าได้กลับไปที่รากเหง้าของเกมส์แนวลอบเร้น(ไม่เหมือนภาค 3 ที่ภารกิจส่วนใหญ่เป็นเดินฟังคนบ่น) ปัญหาคือแพทเทิร์นมันถี่จนเห็นได้ชัดเกินไปหน่อย(คือถ้าเล่น Main Quest แบบรวดเดียวจะรู้สึกเลยว่าเราเล่นมิชชั่นเดียวซ้ำกับทุกเป้าหมาย คือสะกดรอย หยุดฟัง สะกดรอย หยุดฟัง เข้าสถานที่ใหญ่(ตึก ปราสาท ที่มีทหารเฝ้าเยอะๆ) แล้วหาจังหวะเชือดคอซะ)
    อย่างน้อยน่าจะซ่อนหรือพยามทิ้งช่วงภารกิจสักนิด ให้มีเป้าหมายรองๆทำภารกิจแบบอื่นบ้าง คล้ายๆในภาค 2 ที่เป้าหมายคนหนึ่งให้เราพรางตัวกับพระในโบสถ์(ยืนเข้ากลุ่ม) อีกคนให้ปีนหอคอยขึ้นไปถึงยอด(ไต่ผนัง เดินบนเชือก) ฯลฯ

    Edward
    -ไม่รู้ผมเป็นคนเดียวหรือเปล่าที่ไม่ได้รู้สึกชอบเอ็ดเวิร์ดเท่าไหร่ คือชอบมากกว่าคอนเนอร์ แต่ยังน้อยกว่า Ezio
    พอมาลองนั่งดูเนื้อเรื่องใหม่ จริงๆต้องบอกว่าบุคลิกลุงเอ็ดเวิร์ดน่ะโอเค แต่พลาดนิดหน่อยตรงบทไม่ค่อยส่งนัก เพราะในขณะที่ Ezio เป็นเหมือน Fish out of water เป็นหนุ่มเจ้าสำราญที่ตกกระไดพลอยโจนมาเข้ากลุ่มมือสังหาร เอ็ดเวิร์ดเป็นโจรสลัดที่อยู่กับโจรสลัดเหมือนโจรสลัดทั่วๆไป
    ผมรู้สึกอินกับเอ็ดเวิร์ดมากที่สุดแค่ช่วงโปรล็อคเท่านั้น คือตั้งแต่รูดทรัพย์เฮียดันแคนมาจนไปขโมยเรือแจ็คดอว์ เพราะช่วงนั้นเป็นเวลาที่เอ็ดเวิร์ดแสดงตัวตนออกมามากที่สุดเมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แปลกใหม่ ถูกรายล้อมด้วยเทมพลาร์ ถูกจับตาโดยมือสังหาร และผู้คนรอบตัวก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นโจรสลัด แต่พอกลับมาเข้าก๊วนโจรสลัดแล้ว ไอ้นิสัยหิวเงินโลภกะล่อนนี้มันแทบจะมีในตัวเพื่อนๆโจรสลัดเกือบทุกคน(มากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง) ความโดดเด่นมันเลยลดลงไปพอสมควร
    อีกอย่างคือในขณะที่เราติดตามชีวิตเอซซิโอ้กับคอนเนอร์มาตั้งแต่เด็ก เราต้องเจอเอ็ดเวิร์ดตอนช่วงกลางชีวิตเกือบๆจะเข้าวิกฤตวัยทำงาน และได้รับรู้เบื้องหลังชีวิตผ่านการบอกเล่าของเจ้าตัวเท่านั้น(เวลาเดินไปทักเพื่อนๆโจรสลัดแต่ละคนนี่…บทแนะนำตัวโคตรจะไม่เป็นธรรมชาติเลย)

    • โคตรเห็นด้วยกับเรื่องภารกิจเลย แถมรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันยังสั้นๆไปด้วย แต่ถ้าตัวละครที่ชอบผมรู้สึกชอบ Ed มากกว่า Ezio แฮะ แต่ตัวที่ชอบที่สุดต้อง Altair

    • คิดเหมือนกันเลยค่ะ บทของ Edward มันยังขาด ๆ เกิน ๆ ไปนิดค่ะ มีความรู้สึกว่าเหมือนจะเต็มดีแล้วแต่มันยังไม่สุดเท่าไร

        • อันนี้ไม่แน่ใจค่ะ เคยอ่านสัมภาษณ์จากคนของ Ubisoft อันหนึ่งเขาบอกว่าใน DLC สักอันหนึ่งของภาค 4 (น่าจะ Freedom cry) มีคำใบ้ถึง Assassin’s creed ภาค 5 อยู่ค่ะ แต่ต้องวิเคราะห์กันเองว่าคำใบ้นั้นคืออะไร เขาบอกว่าถ้าเป็นแฟนเกมระดับฮาร์ดคอร์น่าจะเข้าใจ (อย่าถามเจ้าของบล็อกนะคะ ตอนนี้ยังไม่ได้ซื้อ Freedom cry มาเล่นเลยค่ะ) 😀

  4. ตัวละครที่ผมชอบที่สุดน่าจะเป็น Ezio เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วเราอยู่กับ Ezio นานมากๆๆๆๆๆๆๆ ของมากๆ เห็นตั้งแต่วัยแบเบาะพึ่งเกิดจากครรภ์แม่จนกระทั่งแก่หง่อมแหงมจนเสียชีวิตในภาค Ember ทำให้เรารู้สึกอินกับตัวละครนี้มากของมากๆ ผิดกับ Edward ที่ อยู่ๆก็โผล่มาท่ามกลางเรือใหญ่ยังไม่ค่อยรู้เนื้อหาอะไรสักเท่าไหร่จับผลดจับพลูหลงเข้าไปเจอกับกลุ่ม Assassin และ Templar อย่าง งงๆ และอยู่ๆพอดำเนินเนื้อเรื่องมาสักพักหนึ่ง โอ้ว คนนี้ตาย คนนั้นตาย แง กลับใจไปร่วมมือกับ assassin อันนี้ยังพอรับได้ แต่บทตรงส่วนที่ edward เริ่มร่วมมือกับ assassin รู้สึกมีน้อยเกินไปแบบปุปปับก็กลับใจแล้วก็ร่วมมือกัน แถมตอน trailer ที่บอก a pirate trained by assassin – – นี่ผมว่าไม่ใช่เลย พอเฮียแกมา Havana ได้ wristblade ปุป ก็โชวืหล่อ skill assassin แบบ งงๆ ว่าทำได้ไงวะ?? ไม่เคยทำมาก่อนอยู่ๆก็ทำได้ซะงั้น – – แล้วที่ตอนถูกฝึกโดย assassin นี่…

    Mentor: เห้ เอ็ดเวิร์ดเอ็งเอา rope darts ไป
    Edward:ได้เลย!!

    เนี่ยนะฝึก O_O!

    ทางด้านส่วนของภารกิจนั้นผมพอเข้าใจว่าจะได้กลับไปสู่รากเหง้าของ assassin แต่มันจำเจเกินไป แรกๆก็รู้สกสนุกๆ แต่หลังๆก็ชักเบื่อ และที่สำคัญคือการทำ Full sync เวลาจะฆ่าใครี่เป็นตัวละครสำคัญ ทำไมต้อง air assasinate กันทุกคนด้วย – – ทำอย่างอื่นไม่เป็นแล้วใช่ไหม??

    ตามความคิดของผมแล้วรู้สึกยุครุ่งเรืองที่สุด ของ assassin จะเป็นภาค ของ ezio ที่สุดแล้วครับ ถ้าคนสร้างกับมาทำแบบ ภาคต่อเรื่อยๆ จะทำให้เรารู้สึกอินกับตัวละครนั้นๆมากขึ้นอย่าง

    conor ที่เมื่อจบฉากขุดฝังของแล้วก็น่าจะออกมาเป็นภาคเสริมว่านี่ไปทำอะไรมาอีกเจอ aveline รึเปล่า ใครเป็นคู่รัก?

    ส่วน Edward พอเข้าใจอยู่ว่าพอไปถึงอังกฤษจน Haytham เกิดได้ 10 ปีก็จบชีวิตแต่ว่าควรจะมีภาคอังกฤษที่จะตามไปจัดการนายพลให้เสร็จสิ้นแล้วก็ต่อกรกับ templar ในอังกฤษต่อ จะทำให้เราอินและรักในตัวEdward ที่กลับใจใหม่ได้ดีกว่านี้

    ปล. เจ้าของบล๊อกพอรู้ไหมครับว่า Novel assassin creed IV Blackflag นี่เนื้อหาเป็นของใคร ว่าจะหามาอ่านสักหน่อย

    • น่าจะเป็น Edward ค่ะ ในเนื้อเรื่องโลกปัจจุบันมีตัวอย่างจากหนังสือนิยายให้อ่านด้วยเล็กน้อยนะคะ แต่จำไม่ได้ว่าเจอมาจากตรงไหน

      • ขอบคุณค้ะ แต่เวอร์บน pc จะดีกว่า psvita หรือเปล่า? (เห็นคนวิจารณกันมากมาย)

        • น่าจะดีกว่าค่ะ เพราะแน่นอนว่าพวกบั๊กเอย อะไรเอยก็คงได้รับการแก้ไขแน่นอนค่ะ อีกอย่างคุณภาพของภาพก็น่าจะดีกว่ามากเลยค่ะ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s