ตอนแรกว่าจะแปลเต็ม ๆ แต่เห็นทีจะไม่มีเวลาเท่าไรค่ะ (แหะแหะ ช่วงนี้ติดซีรี่ย์) ก็เลยขอย่อมาแทนแล้วกันค่ะ บทสัมภาษณ์นี้มาจาก Edge-online เป็นบทสัมภาษณ์ของเดือนมกราคมที่ผ่านมาค่ะ ซึ่งเท่าที่อ่านดูแล้วก็ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย เพราะคุณ McDevitt ก็ตอบเอาไว้ค่อนข้างจะชัดเจนในหลาย ๆ ส่วนค่ะ
เกี่ยวกับการอำลา Desmond
ในบทสัมภาษณ์คุณ McDevitt บอกว่าในภาค Black Flag นี้เขาพยายามใส่พวกข้อความส่งท้าย บอกลาต่าง ๆ เกี่ยวกับ Desmond เอาไว้ หากว่าเราเข้าไปแฮคทุกห้องในส่วนของเนื้อเรื่องปัจจุบันเราจะได้บอกอำลา Desmond อย่างสมบูรณ์ เนื้อเรื่องของ Desmond นั้นเป็นความตั้งใจของทีมงานตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องการให้มันจบไป แต่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในส่วนจุดจบของ Desmond เล็กน้อยแต่ยังไงซะ Desmond ก็ต้องจากไปอยู่ดี
คุณ McDevitt ยังบอกอีกด้วยว่าจากบทสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ที่ทางผู้กำกับคุณ Ashraf Ismail ให้สัมภาษณ์ว่า Assassin’s creed มีตอนจบเอาไว้แล้วนั้นก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว เขากล่าวว่าเนื้อเรื่องตอนจบนั้นมีแต่ว่าขอบเขตของเนื้อเรื่องจะไม่มีวันจบ เขาอยากให้ Assassin’s creed เป็นเหมือนเรื่อง Doctor Who ที่สามารถขยายขอบเขตของเนื้อเรื่องออกไปได้เรื่อย ๆ อย่างไม่มีจำกัด
เกี่ยวกับเนื้อเรื่องในปัจจุบัน
ภาค Black Flag คือจุดเริ่มต้นแนวทางแบบใหม่ของ Assassin’s creed เมื่อก่อนเนื้อเรื่องของ Assassin’s creed มีการเชื่อมโยงกันในแบบไตรภาคเรื่อยมา แต่เนื้อเรื่องแบบใหม่จะเป็นในแบบเชื่อมโยงกันเป็นไตรภาคหรือไม่นั้นคุณ McDevitt ไม่ได้ยืนยันเรื่องนี้ เขากล่าวว่าเนื้อเรื่องของเกมที่ผ่านมานั้นมีจุดบอดที่ต้องแก้ไข เพราะเมื่อปี 2007 เนื้อเรื่องของเกมเขียนเอาไว้ว่าเดือนธันวาคมปี 2012 จะเป็นวันที่ Abstergo จะปล่อยดาวเทียมเพื่อควบคุมจิตใจคนทั้งโลก แต่แล้วทีมงานก็เปลี่ยนใจทำให้ในภาค 2 เนื้อเรื่องเปลี่ยนไปเป็นวันสิ้นโลกในปี 2012 แทน
สำหรับเนื้อเรื่องในส่วนของปัจจุบันนั้น คุณ McDevitt กล่าวว่า เขารู้ว่ามีแฟน ๆ ระดับแฟนพันธ์แท้หลายคนให้ความสนใจเนื้อเรื่องของเกมในส่วนของปัจจุบันมากแต่ว่าจุดขายหลัก ๆ ของเกมอยู่ที่การขายประวัติศาสตร์ดังนั้นทางทีมงานจึงไม่เคยโฟกัสไปที่เนื้อเรื่องในส่วนของปัจจุบันเลย
เกี่ยวกับเนื้อเรื่องในภาคถัดไป
ดังที่เราจะเห็นได้ว่าเนื้อเรื่องในส่วนของปัจจุบันในภาค Black Flag นั้นมีข้อความของพนักงาน Abstergo จำนวนมากที่คุยกันเกี่ยวกับเรื่องสถานที่ที่พวกเขาจะเข้าไปค้นหาต่อไปไม่ว่าจะเป็น ยุคโชกุนของญี่ปุ่น ยุควิคตอเรียน ยุคปฏิวัติฝรั่งเศส ยุคคาวบอยตะวันตก ยุคเจงกิส ข่าน หรือแม้กระทั่งยุคปี 60 ที่ลอส แองเจลลิส คุณ McDevitt กล่าวว่า พวกเขาสนุกกับสิ่งเหล่านี้มาก เขากล่าวว่าเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าทาง Kotaku จะนำเอาเรื่องนี้มาเขียนเป็นบทความใหญ่ ๆ ถึง 2 บทความเต็ม เขาแค่คิดออกมาขำ ๆ เป็นการล้อเลียนแฟน ๆ เกมเท่านั้นเอง ฉะนั้นแล้วไอ้รายชื่อทั้งหมดที่เห็นในเกมนั้นได้มาจากสิ่งที่แฟน ๆ คิดขึ้นมาทั้งนั้นเลย เขาไม่ได้คิดเองแต่อย่างใด
แต่เมื่อทางเว็บ edge online ได้สอบถามกับคุณ McDevitt ไปตรง ๆ ว่าเนื้อเรื่องภาคถัดไปจะเป็นที่ไหนกันแน่เขากลับตอบมาแค่เพียงว่า สิ่งที่แฟน ๆ เกมคิดกันขึ้นมานั้นมันก็คล้าย ๆ กับสิ่งที่พวกเขาคิด เขาอยากจะปล่อยเอาไว้แบบนั้นแฟน ๆ เกมจะได้ประหลาดใจเล่น
เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของระบบเกมเพลย์ในภาคถัดไป
คุณ McDevitt พยายามหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อเรื่องภาคถัดไป แต่ก็มีข้อสงสัยบางอย่าง อย่างที่แล้วมาเทคโนโลยีระบบเดินเรือที่ใช้ในภาค 3 ถูกนำมาใช้อย่างสมบูรณ์แบบในภาค 4 ดังนั้นมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่ว่าภาคถัดไปก็จะได้ลงทะเลเหมือนกัน คุณ McDevitt เลือกตอบอย่างระมัดระวัง เขากล่าวว่า เป็นปกติอยู่แล้วที่ถ้าพัฒนาเทคโนโลยีอะไรขึ้นมาต้องนำมันให้กลับมาใช้ได้เรื่อย ๆ เขาบอกว่าเทคโนโลยีที่เห็นเหล่านี้เราอาจจะมีโอกาสได้เห็นอีกในอนาคต อาจจะไม่ใช่แค่อยู่บนเรือก็ได้ อาจจะแตกต่างจากนี้อย่างสิ้นเชิงไปเลยก็ได้
เกี่ยวกับแนวทางการทำงานของ McDevitt
ผู้สัมภาษณ์ได้ถามถึงลักษณะการทำงานของคุณ McDevitt ในอนาคตเนื่องจากเกม Assassin’s creed ในภาคถัด ๆ ไปนั้นจะยิ่งเพิ่มความยากในการทำงานมากขึ้นเรื่อย ๆ คุณ McDevitt จึงอธิบายว่า การเล่าเรื่องเกมแนว open world นั้นจะแตกต่างออกไป เขาพยายามยึดแนวทางอย่างนักเขียนชื่อดังอย่าง James Joyce ผู้แต่งนวนิยายเรื่อง Ulysses เป็นแบบอย่าง คือจะให้ความสำคัญไปที่ตัวละครผู้ดำเนินเรื่องเพียงคนเดียวและตัวละครนั้นจะต้องเข้ากับธีมของเรื่องได้มากที่สุด เพื่อที่ผู้เล่นจะได้รู้สึกเข้าใจในตัวละครมากขึ้น เขาคิดว่าในภาค Black Flag นั้นทำเอาไว้ได้ดี เพราะเขาไม่ได้ต้องการจะให้ตัวละครบอกเรื่องราวว่าตัวละครตัวนั้นเป็นโจรสลัด แต่ต้องการใช้ธีมรอบ ๆ เป็นตัวบ่งบอก ซึ่งมันก็เข้ากันได้ดี
ฉากจบของภาค Black Flag คือ Edward Kenway เดินทางกลับไปยังลอนดอนหลังจากพิชิตท้องทะเลแคริเบียนแล้ว ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า Assassin’s creed ภาคต่อไปจะเริ่มเรื่องกันที่ไหน ก่อนจากคุณ McDevitt ทิ้งท้ายว่าเป้าหมายหลักของเขาและทีมงานคือการทำให้เกมออกมาสดใหม่และสนุกสนานในทุก ๆ ย่างก้าว ดังนั้นไม่ว่าสถานที่ในภาคต่อไปจะเป็นที่ไหนก็ตาม พวกเขาก็มั่นใจว่าจะทำได้แน่นอน
แหล่งอ้างอิง (Reference) : Edge-online
แหล่งช่วยเสริม : Thefreedictionary.com
ปล. ผิดพลาดประการใดท้วงติงได้เลยนะคะ
ตกลงมีให้เล่นอีกหลายภาค….ว่างั้น
1 เสียง…เสนอให้คุณเจ้าของบล็อกเปลี่ยนจาก Word Press เป็น Blogger มีคนติดตามมากกว่า ง่ายกว่า…มีคนดูมากได้ตังด้วยครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ 😀
อ๊ากๆๆๆ เจ็บปวดตรงตอนอำลา desmond นี่แหละ
after story ของ edward เป็นยังไงครับ ว่าจะไปหาๆอ่านแล้วก็ลืมๆไป
หมายถึงนิยายใช่ไหมคะ ซื้อมาอ่านแล้วค่ะแต่ยังอ่านไม่หมด เท่าที่เปิดอ่านผ่าน ๆ ในนิยายจะเล่าถึงชีวิตก่อนจะเจอภรรยาคนแรกค่ะ Edward จะเล่าว่าครอบครัวเขาทำอะไร ไปจีบหญิงได้ยังไง คิดยังไงถึงอยากเป็นโจรสลัด อะไรประมาณนั้นค่ะ
ส่วนที่เหลือเท่าที่ดูก็ไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างจากเกมเท่าไรนะคะ ถ้ายังไงเดี๋ยวถ้าอ่านจริงจังเมื่อไรจะมาสรุปคร่าว ๆ ให้นะคะ
ไม่แน่เราอาจจะได้เล่นเป็นมนุษย์ Assassin ยุคหินเลยก้อเป็นได้….
โห..ย้อนไปไกลมากเลยนะนั่น