หลังจากที่เจ้าของบล็อกใช้เวลาหลายสิบวัน ในการเล่นเกม Assassin’s creed Syndicate ในที่สุดก็เล่นภาคนี้จนจบค่ะ ภาคนี้มีหลายอย่างที่เป็นปริศนาให้เรามานั่งขบคิดกันเยอะแยะเลย
เรื่องราวในภาคนี้มาอยู่ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ถ้าเราสังเกตจะเห็นได้ว่า เนื้อเรื่องของ Assassin’s creed ช่วงหลัง ๆ Timeline เริ่มเรียงกัน (ถ้าไม่นับภาค 4 ที่กระโดดย้อนกลับไป) จะเห็นได้ว่า ภาค 3 เป็นช่วงสงครามปฏิวัติอเมริกา ภาค Unity เป็นช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากสงครามปฏิวัติอเมริกาได้ไม่นาน และภาค Syndicate เป็นช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั่วโลก (และนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ในอีกราว ๆ 70 ปีให้หลัง)
ภาคนี้เนื้อเรื่องในส่วนของปัจจุบันยังคงเชื่อมโยงมาจากภาคที่แล้ว และภาคก่อนหน้านั้นด้วย เรายังคงพัวพันกับกลุ่ม Initiates (สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Initiates คืออะไร กดที่นี่ค่ะ จขบ.-แปลไว้บางส่วนแล้ว เหลืออีกราว ๆ 2 ตอนจะจบละค่ะ) และเจ้าอุปกรณ์ที่ชื่อว่า Helix เช่นเดิม อีกทั้งเรายังได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกลับมาของใครบางคนด้วยค่ะ ซึ่งภาคนี้ก็ยังไม่ได้เฉลยเราสักทีว่า บุคคลผู้นั้นมีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงหรือไม่
สำหรับการรีวิว ถ้า จขบ. เข้าใจผิดตรงไหน ท้วงติงได้เลยที่ช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างนะคะ
เนื้อเรื่องหลักของภาคนี้เน้นที่การตามหา Piece of Eden ที่ซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในลอนดอน โดยตัวเราซึ่งเป็น Assassin Initiate ได้ถูก Bishop ซึ่งเป็นหนึ่งในทีม Initiate ชักชวนเราผ่านเครื่อง Helix ให้เข้าไปดูความทรงจำผ่าน DNA ของสองพี่น้อง Evie และ Jacob Frye
หลังจากที่เราเข้ามาในระบบ Helix ก็ได้พบว่าเราได้เข้ามาอยู่ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ ซึ่งช่วงเวลานั้นเหล่าพี่น้อง Assassin ที่อยู่ในลอนดอนกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ Henry Green มือสังหารชาวอินเดียจึงได้ส่งจดหมายไปขอความช่วยเหลือ สองพี่น้องจึงเดินทางเข้าไปยังลอนดอนและได้พบว่าผู้ที่กำลังครอบครองลอนดอนอยู่นั้นคือ หัวหน้าเทมพลาร์ผู้น่ากลัว Crawford Starrick
ส่วนของปัจจุบัน
เนื้อเรื่องในส่วนของปัจจุบันนั้นเราได้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านเครื่องโดรน ของกลุ่ม Initates ที่ได้บินติดตามสองสหายคู่จิ้น Shaun และ Rebecca และอีกหนึ่งสมาชิกของ Initiates ทำให้เราได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่านอกจากนั่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเราก็ทำอะไรนอกเหนือจากนั้นไม่ได้เลย
ส่วนของอดีต
ในส่วนนี้รายละเอียดเยอะมากทีเดียวเอาเท่าที่จำได้แล้วกันนะคะ เกม Assassin’s creed ที่ผ่านมาเราสามารถเล่นเป็นตัวละครสำคัญได้เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ในภาคนี้เนื่องจาก DNA ที่ทาง Abstergo นำมาใช้ในการทดลองนั้นบรรพบุรุษของเจ้าของ DNA มีแฝดคนละฝา คือแฝดผู้พี่ Evie และ แฝดผู้น้อง Jacob ทำให้เราสามารถที่จะสลับเล่นตัวละครทั้งสองได้ นับว่าเป็นความแปลกใหม่และท้าทายทั้งตัวผู้ผลิตและผู้เล่นเกมอย่างมาก
ตัวละครหลัก Evie และ Jacob
อย่างที่ได้กล่าวไปในบทความที่ผ่านมาคือ ในภาคนี้มีการใช้ระบบสะสมค่าประสบการณ์ (XP) เพื่อนำไปใช้พัฒนาทักษะต่าง ๆ ซึ่งทักษะส่วนใหญ่ของทั้งคู่จะเหมือนกันจะมีบางทักษะที่เป็นทักษะเฉพาะ ระดับทักษะสูงสุดในภาคนี้คือระดับ 10 ค่าประสบการณ์เหล่านี้จะได้รับจากการทำภารกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมทั้งภารกิจหลัก หากใครอยากให้ XP ขึ้นไว ๆ แนะนำให้ทำภารกิจย่อยที่กระจายทั่วเมืองค่ะ เช่น ต่อยมวย ปล้นรถม้า คุ้มกันรถม้า ยึดเขตแดน เป็นต้น
และเช่นเดียวกันในเมื่อเรามีระดับทักษะศัตรูเองก็มีทักษะ คือมีตั้งแต่ระดับ 1 – 10 ซึ่งในช่วงแรกเราควรเลือกที่จะทำภารกิจย่อยกับศัตรูที่มีระดับทักษะไม่สูงกว่าเรามากนัก เพื่อให้ภารกิจของเราสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ในเมื่อศัตรูมีระดับทักษะได้ ลูกน้องเราก็มีระดับทักษะได้เช่นกัน แต่ของลูกน้องเรานั้นมีได้สูงสุดคือระดับ 9 และการจะได้ระดับทักษะสูงสุดมานั้นเราจะต้องค่อย ๆ อัพเกรดแก๊งของเราไปเรื่อย ๆ ค่ะ โดยเข้าไปในส่วนของ Gang Upgrades (ไม่ขออธิบายมากนะคะ มีแล้วในบทความก่อนหน้า)
ภาคนี้คล้าย ๆ กับภาค Unity คือเกมทั้งเกมให้เราได้เล่นอยู่ใน London อย่างเดียวไม่มีการเดินทางไปเมืองอื่น แม้จะมีรถไฟวิ่งผ่านตลอดเวลาก็ตาม แต่ด้วยความละเมียดละไมของสิ่งก่อสร้าง รวมทั้งภารกิจหลากหลายที่มีมาให้เล่นไม่เบือหน่าย ทำให้ จขบ. ไม่รู้สึกว่าแผนที่มันแคบแต่อย่างใดค่ะ รู้สึกว่ามองไปทางไหนก็มีแต่สิ่งหน้าสนใจเต็มไปหมด มีของให้มานั่งไล่เก็บเยอะแยะเลย เช่น ขวดเบียร์ (Beer bottle) ดอกไม้ (Pressed Flower) โปสเตอร์ประวัติศาสตร์ (Historical Poster) จดหมาย (Royal letter) , Royal Glitch และ Helix Glitch รวมทั้งมี Crowd Event ที่จู่ ๆ ก็โผล่ขึ้นมาให้เราได้ทำอีกด้วยค่ะ ภาคนี้กล่องสมบัติมี 2 แบบคือ กล่องขาวและกล่องเหลือง โดยกล่องขาวจะมีพวกวัตถุดิบธรรมดาที่ใช้สำหรับอัพเกรดอาวุธและแก๊ง ส่วนกล่องเหลืองนั้น มองข้ามไม่ได้นะคะ เพราะจะมีวัตถุดิบพิเศษในนั้นด้วยค่ะ สำหรับเอาไว้ใช้ปลดล็อกอาวุธและเสื้อผ้าแบบพิเศษค่ะ (ภาคนี้สะเดาะกุญแจง่ายมาก ไม่เหมือนภาคที่แล้ว)
Assassin’s Hideout จะคล้าย ๆ กับภาคที่ผ่านมาคือสถานที่กบดานจะเป็นที่เก็บเงิน นอกจากนี้ยังสามารถอัพเกรดอาวุธ อัพเกรดแก๊ง อ่านบันทึกที่ Evie เขียน มีแผนที่เชื่อมโยงบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับภารกิจหลักของเรา ภาคนี้สถานที่กบดานของเราอยู่บนรถไฟ ซึ่งเคลื่อนที่ตลอดเวลา (บางทีหายออกไปจากแผนที่เลยก็มี จะกลับไปเก็บเงินสักหน่อย รถไฟวิ่งไปไหนไม่รู้)
Rope Launcher เกือบลืมพูดถึงอุปกรณ์สุดแสนจะสะดวกสบายชิ้นนี้ไปเลยค่ะ เป็นอุปกรณ์ที่ จขบ.ชอบมาก ๆ ทำให้เกมเร็มขึ้น และเล่นได้ลื่นไหลมากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาปีนขึ้นปีลงให้เมื่อย จะเข้าพื้นที่ก็ทำได้ง่าย จะหนีออกจากพื้นที่ก็ทำได้เร็วทีเดียวค่ะ
ทหารในเมืองแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือ
- ฝ่ายน้ำเงิน (จะว่าเป็นทหารก็ไม่ถูกแฮะ) มีทั้งทหารและตำรวจค่ะ คล้าย ๆ กับภาค Unity อีกแล้วคือ ถ้าเราไปทำอะไรที่ดูผิดปกติ ทหารพวกนี้ก็จะวิ่งไล่เราค่ะ รวมทั้งวิ่งไล่ฝ่ายตรงข้ามด้วย
- ฝ่ายแดง เป็นลูกสมุนฝั่งเทมพลาร์ (หรือ The Blighters) ซึ่งในช่วงแรกที่เรายังไม่ได้อัพเกรดแก๊ง พวกเสื้อแดงก็จะวิ่งไล่เราค่ะ เจอเป็นไม่ได้ต้องหันมาตามไล่เราทุกที
- ฝ่ายเขียว คือฝ่ายเดียวกับเราเองค่ะ (หรือ The Rooks) หลังจากเรายึดเขตมาได้แล้ว เราก็จะสามารถเรียกใช้ลูกน้องฝ่ายเขียวได้ค่ะ จะสั่งให้ทำอะไรก็แล้วแต่เรา (ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องอัพเกรดแก๊งเราก่อน ถึงจะสามารถเรียกใช้งานในบางอย่างได้ค่ะ)
ภารกิจหลัก
ในภาคนี้มีทั้งหมด 9 Sequence ด้วยกันซึ่งภารกิจของ Evie และ Jacob จะแยกกันชัดเจน และภารกิจส่วนใหญ่นั้นจะเป็นของ Jacob ในการทำภารกิจหลักนั้นจะคล้าย ๆ กับภาค Unity คือมีภารกิจย่อยเล็กน้อยซึ่งเราเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำก็ได้ ไม่มีผลอะไร แต่จะช่วยให้เราสามารถทำภารกิจหลักได้ง่ายขึ้นนั่นคือ การทำ Opportunities มี 3 แบบคือ Infiltration (การลอบเข้าฐาน), Stealth (การอำพลางตัว) และ Assisstance (การช่วยเหลือ) ทำมันหมดทุกอันก็ได้ (ถ้าต้องการ) หรือเลือกทำอันใดอันหนึ่งก็ได้ มันก็จะทำให้เราสำเร็จภารกิจหลักได้เหมือนกัน แล้วแต่ความถนัดของเราเลย
ภารกิจย่อย ๆ
ในเกมมีมากมายมหาศาลจนตอนที่เนื้อเรื่องจบ จขบ.ก็ยังทำภารกิจย่อยได้ไม่หมด ภารกิจย่อยได้แก่
1. การยึดเขตทั้ง 7 เขตของลอนดอนซึ่งในแต่ละเขตจะมีระดับความยากต่างกันไป
ความสำคัญของการยึดเขตทั้งหมดนี้ จะช่วยให้เราทำภารกิจย่อย ๆ ในเมืองได้อย่างสบายใจมากขึ้น (โดยไม่ต้องไปกังวลว่าไปเหยียบเขตอิทธิพลของใครหรือเปล่า) แถมลูกน้องก็มีให้เราเลือกหยิบยืมมือมาใช้ได้สบาย ไหนจะรถม้าที่วิ่งให้ขวักไขว่ เราอยากจะปล้นเมื่อไรก็ได้ไม่ต้องกังวล (ฮา) ในการยึดเขตแดนแต่ละเขตก็จะมีภารกิจย่อยให้เราทำ ซึ่งการทำภารกิจย่อยแต่ละครั้งจะทำให้เราได้รับ Loyalty Level ของบุคคลสำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับเราด้วย Loyalty Level พวกนี้มีผลกับไอเทมพิเศษที่เราจะได้รับ โดยในการยึดเขตทั้ง 7 เขตจะมีภารกิจย่อย ๆ ให้เราทำได้แก่
- Templar Hunt ภารกิจล่าหัวหน้าเทมพลาร์ ประจำถิ่น
- Bounty Hunt ภารกิจลักพาตัวหัวหน้าถิ่น (จะมาในสภาพยังมีชีวิตอยู่หรือจะฆ่าให้ตายก่อนก็ได้ แต่คะแนน XP ที่ได้รับจะต่างกัน)
- Child Liberation ภารกิจช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ถูกนำมาใช้แรงงาน และฆ่าหัวหน้าถิ่น (ห้ามทำให้ระฆังดัง)
- Gang stronghold จัดการเก็บพวก blighter ทั้งหมด เผากระดาษแผนการของ blighter และ ช่วยเหลือคนที่ถูกจับ
ในแต่ละเขตเมื่อเราสามารถยึดครองพื้นที่มาได้บางส่วนแล้ว จะปรากฏตัวหัวหน้าเขตสูงสุดมาพูดจาหลอกล่อให้เราวิ่งตาม ตรงนี้เราควรที่จะวิ่งตามฆ่าหัวหน้าเขตสูงสุดเสียแต่ตอนนี้เลย เพราะจะทำให้ภารกิจสุดท้ายในการยึดเขตง่ายขึ้นมากและไม่เสียเวลาต้องไปดวลตัวต่อตัวกับตัวหัวหน้าเขตสูงสุดด้วย
2.ภารกิจตัวอักษรบนแผนที่ ตัวอักษรที่ปรากฏบนแผนที่ก็คือชื่อย่อของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับเรา ประกอบด้วย Karl Maxx , Ned Wynert , Charles Dicken , Charles Darwin , Henry Green , Robert Topping และ บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ในช่วงเวลานั้น การทำภารกิจเหล่านี้นอกจากจะทำให้เราได้อุปกรณ์พิเศษและค่า Loyalty Level แล้ว ยังทำให้เราได้เงิน ได้ค่าประสบการณ์ และได้วัตถุดิบหายากสำหรับเอาไว้ใช้ผสมสิ่งของในการอัพเกรดชุดและอาวุธด้วยค่ะ
3.ภารกิจย่อยของภารกิจย่อย เป็นภารกิจต่อเนื่องมาจากการทำภารกิจตัวอักษรของบุคคลสำคัญบางคน เช่น การต่อยมวย การปล้นรถม้า การคุ้มกันรถม้า การปล้นเรือ วางระเบิดเรือสินค้า เหล่านี้จะช่วยให้เราได้เงินและได้รับค่าประสบการณ์รวมทั้งค่า Loyalty Level ด้วยค่ะ
4.ภารกิจพิเศษมาก ๆ เมื่อเราเล่นไปจนถึง Sequence ที่ 6 แล้ว เนื้อเรื่องของเกมจะเปิดไปสู่เนื้อเรื่องของอีกโลกหนึ่ง ให้เราได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศใหม่ ๆ ในเกม ซึ่งบอกเลยว่าภารกิจนี้ไม่ควรพลาดเลยนะคะ
ขอเสริมเล็กน้อย ใน DLC ตัวหนึ่งของภาคนี้เราจะได้เจอบุคคลสำคัญคนหนึ่งในวัยเยาว์ด้วย ใบ้ให้นิดนึงว่าบุคคลผู้นี้ภายหลังได้กลายมาเป็นนักเขียนนิยายผู้โด่งดังไปทั่วโลก และมีฐานแฟน ๆ มากมายเลยล่ะค่ะ
ระบบ Perks
ภาคที่ผ่านมา ในการปลดล็อกทักษะพิเศษจะได้มาจากการตามเก็บชิ้นส่วนบางอย่างถึงจะปลดล็อกได้ มาในภาคนี้ไม่ต้องไปตามเก็บแล้วค่ะ แต่เราต้องทำตามเงื่อนไขต่าง ๆ ในเกมถึงจะปลดล็อกสิ่งที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เราได้เช่น การทำ Headshot , Double Kill และอื่น ๆ โดยสิ่งที่เราได้จากการทำเงื่อนไขเช่น เพิ่มความรุนแรงของการโจมตี , ช่วยให้พลังชีวิตลดช้าลง หรือ ช่วยเพิ่มความอึดให้เรา เป็นต้นค่ะ
สรุปโดยรวม
ภาคนี้ทำออกมาได้น่าตื่นตาตื่นใจกว่าภาค Unity มากค่ะ เนื้อเรื่องและระบบเกมเพลย์ก็สนุกมากค่ะ มีอะไรมาให้เราทำได้เรื่อย ๆ เนื้อเรื่องก็มีอะไรมาทำให้ตกใจหน้าเหวออยู่ตลอด สองพี่น้องมีทั้งความเหมือนในความต่าง ลักษณะของตัวละครก็เป็นที่ชื่นชอบได้ไม่ยาก เรียกได้ว่าถูกจริตคนส่วนใหญ่เลยล่ะค่ะ ภาคนี้ไม่มีดราม่า เคล้าน้ำตาแฮะ มีแต่ความสนุกและผ่อนคลาย เล่นแล้วคลายเครียดดีค่ะ บอกเลยว่าภาคนี้ ชอบมาก!! ค่ะ
บรรยากาศในเกม ทั้งแสง สี เสียง ของภาคนี้ทำออกมาได้ดีเหมือนทุก ๆ ภาค มีฝนตก แดดออก เกมนี้ฝนตกบ่อยมาก ซึ่งก็สมจริงค่ะ เพราะเท่าที่ทราบมาลอนดอนเป็นเมืองที่ฝนตกบ่อย เสียงเพลงประกอบในภาคนี้ก็ไพเราะมากทีเดียว แล้วก็แสดงถึงความเป็นตัวตนของสองพี่น้องสุดแสบได้ดีทีเดียวค่ะ
สิ่งที่ชอบมากเกี่ยวกับเกมนี้คือ บุคคลิกของสองพี่น้องค่ะ กวน ๆ และอารมณ์ขันทั้งคู่ ส่วนตัว จขบ.ชอบเล่น Evie มากกว่าค่ะ เพราะว่าเธอจะเน้นลอบสังหารแบบเงียบ ๆ มากกว่า ทำให้ภารกิจบรรลุง่ายกว่าค่ะ ส่วน Jacob จะดุดันและหนักหน่วงกว่ามาก ถ้าใครชอบแบบบู๊เล่น Jacob จะไม่ผิดหวังเลยค่ะ
สำหรับการรีวิว(หรือเปล่า)ของ จขบ.ก็หมดเท่านี้แล้วค่ะ ท่านใดต้องการร่วมรีวิวและแสดงความคิดเห็น เชิญได้เต็มที่ที่ช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างได้เลยนะคะ ถ้าคอมเมนต์มายาว ๆ ระบบหลังบ้านของเว็บมันชอบคิดว่าเป็นสแปมค่ะ ยังไงถ้ายังไม่เห็นข้อความของท่านก็อย่าเพิ่งตกใจนะคะ เดี๋ยวรอ จขบ.มากดปล่อยออกจากถังสแปมก่อนนะคะ 😀
เสริมนิดนึง อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใดนะคะ พอดีว่าหลังจากที่ จขบ.ได้อัพเดตไดรฟเวอร์ของ AMD เป็นตัวใหม่ล่าสุด Crimson (ที่ทางค่ายบังคับและโม้หนักหนาให้อัพตัวนี้มา) ก็พบว่ามีออปชั่นนึงที่ไดรฟเวอร์ใส่มาให้นั่นคือ Play TV Video Capture มันจะอัดวิดีโอขณะที่เราเล่นเกมให้อัตโนมัติ และไม่ทำให้เครื่องหน่วงด้วยค่ะ (แต่มีปัญหาบ้าง ทำให้เกมหลุด แต่ไม่บ่อย ถ้าเรารำคาญก็ปิดมันได้ค่ะ)
ล็อกได้ มาในภาคนี้ไม่ต้องไปตามเก็บแล้วค่ะ แต่เราต้องทำตามเงื่อนไขต่าง ๆ ในเกมถึงจะปล็ดล็อกทักษะพิเศษที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เราได้เช่น การทำ Headshot , Double Kill และอื่น ๆ
อันนี้คือปลดลอคสกิลใหม่หรือครับ ทำแล้วได้อะไรหรือ
ไม่ได้ปลดล็อกสกิลใหม่ค่ะ จขบ.อธิบายไม่เข้าใจเอง ขออภัยด้วยนะคะ ประมาณว่ามันเป็นการเพิ่มความสามารถให้กับทักษะที่เรามีอยู่ค่ะ เช่น ทำให้เราต่อยได้แรงขึ้นกว่าเดิมอีก 2% เป็นต้นค่ะ จริง ๆ มีอีกหลายอย่างเลยค่ะ จขบ.ยังปลดได้ไม่หมดเลยค่ะ
อ้อโอเคครับ เล่นถึงSEQ6 แล้ว มันส์มากคิดว่าเป็นภาคที่มันส์สุดแล้วเท่าที่เคยทำมา แต่เนื้อเรื่องยังเลาะไม่หมด
เห็นด้วยเลยค่ะ ภาคนี้เป็นภาคมันมาก และเพลิดเพลินที่สุดภาคนึงเลยค่ะ จขบ.ก็มัวแต่เถลไถล ไปทำมิชชั่นย่อยจนไม่เป็นอันทำอย่างอื่นเลยค่ะ 😀
คอมของ จขบ. เล่นได้สื่นมากไหมครับ อยากจะลองเล่นบ้างครับ แ่ตกลัวไม่ไหว ติดตามเนื้อเรื่องเกมนี้อยู่เหมือนกันครับ 🙂
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ จขบ.ใช้มี 2 เครื่องค่ะ เครื่องใหม่สเปคไม่สูงเท่าไร ปรับกลางไปจนถึงต่ำ (-_-“) ฮา ๆ ก็เล่นได้ไม่มีสะดุดเลยค่ะ ส่วนเครื่องเก่าเป็นเครื่องที่ใช้เล่นมาตั้งแต่ ภาค 3 ภาค black flag และ Unity เครื่องนี้ มีกระตุกบ้าง(โดยเฉพาะฉากฝนตก) แต่ก็พอเล่นได้ค่ะ แต่ไม่ลื่นเท่าไร
ขอบคุณมากครับ อย่างนี้ต้องไปจัดซะแล้ว 😀
แนะนำเลยค่ะ ภาคนี้สนุกมากค่ะ 😀
http://www.ign.com/wikis/assassins-creed-syndicate/Perks ไปเจอมาเกี่ยวกับระบบ perks ครับ
มีครบทุกอันเลย ขอบคุณค่ะ มีหลายท่าเหมือนกันที่ จขบ.ยังทำไม่ได้ สงสัยต้องฝึกเยอะ ๆ 😀
ดีครับ มีข้อสงสัย สามข้อพอดีพึ่งเล่นจบ
พอดีเล่นจบแล้ว ชอบเกมส์เพลย์ภาคนี้มากกทำออกมาได้สนุกมากแต่ขอถามข้อสงสัยหน่อยครับ
1.โรงละครโอเปร่าในช่วงท้ายๆเกมส์ใช่ที่เดียวกับฉากเปิดตัวภาค3ของป๋า เฮย์เทมไหมแล้วภาคนี้ ได้กล่าวถึงเฮย์เทมหรือเปล่าเห็นในdata baseมีเฮย์เทม แต่ไม่มี เอดเวิร์ด
2.สรุป นักฆ่าที่มีegle vision มีทุกคนในภาคีไหมและ มีได้อย่างไร สงสัยตั้งแต่อัลแทร์แล้ว หรือพระเอกทุกภาคมีเชื้อสายของอัลแทร์
3.ถามนิดเกี่ยวกับภาคrouge ใน DLC rougeมีบอกเนื้อเรื่องอะไรหรือเปล่า
1.หมายถึง Royal Operahouse ใช่ไหมคะ คิดว่าไม่น่าใช่อันเดียวกันค่ะ ภาคนี้เท่าที่ดูไม่เห็นมีพูดถึง Haytham เลยค่ะ ก็งงเหมือนกันว่าทำไมใน data base ถึงมีชื่อของ Haytham อยู่
2.ไม่แน่ใจว่ามีทุกคนไหมนะคะ แต่คิดว่าหลาย ๆ คนน่าจะมี และไม่จำเป็นต้องสืบเชื้อสายจาก Ezio ก็มีได้ค่ะ เช่น Gavin Banks (จาก Initiates) , Aveline , Adewale , Arno และ ฝาแฝด Frye ค่ะ ส่วนว่าได้มายังไงก็ จากที่หาข้อมูลมา(เมื่อกี้) เป็นการถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรมของกลุ่มผู้มาก่อน (First Civilization) ค่ะ จริง ๆ จุดนี้ถือเป็นจุดบกพร่องของเนื้อเรื่องอีกจุดนึงเลยก็ว่าได้นะคะ เพราะตอนแรกเกมวางเนื้อเรื่องให้เฉพาะคนที่สืบเชื้อสายจาก altair เท่านั้นถึงจะมีได้ ตอนหลังพอตัด Desmond ออกจากกองมรดกแล้วเนื้อเรื่องเลยเปิดกว้างขึ้นกลายเป็นใคร ๆ ก็มีได้
3.ภาค Rogue มีเนื้อเรื่องค่ะ แล้วก็สนุกกว่าภาค Unity ด้วยค่ะ
อันนี้จขบ.ตอบตามความเข้าใจนะคะ อาจจะผิดได้ 😀
อยากให้ จขบ เปิดเพจเหอะครับผมลองไปถามในเพจ ac thaiถามอย่างตอบอย่าง ถามอะไรตอบมาไม่เข้าประเด็น+มั่วไม่รู้เรื่องเลย
ภาคrouge เล่นจบแล้วมีDLCไหมครับ คืออยากรู้ว่าเค้าสังหาร…. แล้วไปทำอะไรต่อ
ภาค Rogue มี DLC ค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับอะไร แต่คิดว่าไม่น่าเกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก เท่าที่ดูในภาพโฆษณาน่าจะเป็นพวกภารกิจเสริมบนทะเล ประมาณนั้นค่ะ ส่วนหลังจากนั้นแล้วพระเอกไปทำอะไรต่อก็ปล่อยทิ้งไว้แค่นั้นเลยค่ะ ไม่ได้มีอะไรเพิ่ม นิยายของภาคนี้ก็ไม่มีซะด้วย
เล่นจบแล้วครับ เนื้อเรื่อง World War1 เล่นเป็นหลาน เจคอบซะงั้น ซึ่งLydia หน้าตาเหมือนEvieมากกกกเลย
อันนี้ผมมีคำถามนิดครับ นายพลที่สั่งงานเราชื่ออะไรมีตัวตนจริงไหม และjunoพูดอะไรกับเรา
ขออภัยที่ตอบช้านะคะ พอดีติดงาน นายพลที่สั่งการเราคือ Winston Churchil ค่ะ มีตัวตนจริงค่ะ เป็นนายกอังกฤษและถือว่ามีบทบาทสำคัญใน WWII ด้วยค่ะ
ที่ Juno พูดกับเราในช่วง WWI ก็พูดชักชวนเราค่ะ ส่วนมากสิ่งที่พูดออกมาก็คือความเป็นมาของพวก First Civilization เหมือนสรุปเรื่องราวคร่าว ๆ ให้เราฟังเฉย ๆ ค่ะ ที่มาที่ไปของพวก Juno ไม่มีข้อมูลใหม่ ๆ เลยค่ะนอกจากฉากจบเรื่องที่เราได้เห็นกันไป ข้อมูลพวกนี้ ถ้าจำไม่ผิด จขบ.เคยเห็นในเว็บ Initiates ก่อนที่จะถูกปิดตัวอยู่บ้างนะคะ แต่ไม่ได้เข้าไปอ่านจริงจัง