Charles Vane โจรสลัดชาวอังกฤษ เขาเริ่มต้นการเป็นโจรสลัดในช่วงปี 1716- 1719 เรือของเขาเป็นเรือประเภท Brigantine (เรือใบมีเสากระโดงสองต้น) ชื่อว่า “Ranger” (บางที่บอกว่าเป็นเรือ Sloop)
Charles Vane เป็นหนึ่งในโจรสลัดหลาย ๆ คนที่ทำการอยู่แถบ New Providence ใน Bahamas หลังจากที่อังกฤษถอนทัพออกจากประเทศอาณานิคมในช่วง “สงครามสืบราชบัลลังก์สเปน” (War of Spanish Succession) ในปี 1721 หลังจากที่เขากระทำการเป็นโจรสลัดด้วยความเหี้ยมโหด เขาก็ถูกจับกุมและถูกประหารชีวิตที่ Port Royal ประเทศ Jamaica
Assassin’s creed IV Black Flag Charles Vane Concept Art
ภายใต้บัญชาการของ Henry Jennings
Charles Vane เดินทางมาถึงที่ Port Royal ในช่วงสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน (ปี 1701 – 1714) ในปี 1716 เป็นช่วงเริ่มต้นที่เขาเข้ามาอยู่ภายใต้บัญชาการของยอดโจรสลัดผู้น่าเกรงขาม Henry Jennings ปลายปี 1715 เรือขนสมบัติของสเปนล่มนอกชายฝั่งฟลอริด้าเนื่องจากประสบกับพายุเฮอริเคน ทำให้เงินและทองจำนวนมากจมลงสู่ใต้ท้องทะเล ลูกเรือสเปนที่รอดมาได้บางส่วนทำการกู้เอาสมบัติขึ้นมาได้จำนวนหนึ่งตามแต่กำลังที่มี เหล่าโจรสลัดจมูกไวรีบตรงดิ่งตามกลิ่นเงินกลิ่นทองมายังสถานที่ที่เรือล่ม Jennings (ซึ่งมี Vane เป็นลูกเรือด้วยในเวลานั้น) มาถึงยังสถานที่นี้ก่อนเป็นกลุ่มแรก เขาและกลุ่มโจรสลัดเข้าโจมตีลูกเรือสเปนที่เหลือรอดบนชายฝั่ง ได้เงินจากการปล้นลูกเรือสเปนมาทั้งหมด 87,000 ปอนด์
ปฏิเสธการรับพระราชทานอภัยโทษ
ในปี 1718 กษัตริย์อังกฤษทรงมีพระประสงค์จะมอบสารพระราชทานอภัยโทษให้กับเหล่าโจรสลัดทั้งหลายที่ต้องการจะกลับมาใช้ชีวิตเยี่ยงประชาชนอีกครั้ง โจรสลัดหลายคนรับพระราชสารนั้นรวมทั้ง Jennings ด้วย แต่ Vane กลับไม่แยแสต่อสารพระราชทานอภัยโทษและในท้ายที่สุดเขาก็กลายเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรสลัดผู้ซึ่งปฏิเสธการรับพระราชทานอภัยโทษ Vane และกลุ่มโจรสลัดพร้อมด้วยเรือ sloop ที่มีชื่อว่า The Lark ออกทะเลเพื่อเดินหน้าเป็นโจรสลัดต่อไป
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ปี 1718 เรือหลวง HMS Phoenix เดินเรือมาถึงที่ Nassau ทำให้ Vane และลูกเรือของเขาทั้งหมดถูกจับกุม แต่ภายหลังได้รับการปล่อยตัว และในเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ Vane และลูกเรือผู้ภักดีของเขาก็พร้อมที่จะกลับมาเป็นโจรสลัดอีกครั้ง ในเวลาไม่นานเขาก็มีลูกเรือเดนตายแห่ง Nassau เพิ่มขึ้นถึง 40 คน ในจำนวนนี้รวมไปถึงโจรสลัดมือฉมัง Edward England และ Calico Jack Rackham
เหตุที่ Charles Vane และลูกเรือของเขาได้รับการปล่อยตัวอันเนื่องมาจาก หลังจากที่เขาถูกเรือหลวง HMS Phoenix ซึ่งบรรชาการโดย ผู้บัญชาการ Vincent Pearse จับกุมได้ เขาอ้างว่า เขาและลูกเรือกำลังจะไปขอรับการพระราชทานอภัยโทษจึงเดินทางผ่านมาในเส้นทางนี้พอดี หาได้จะไปกระทำการเป็นโจรสลัดไม่ Cpt. Pearse ได้ยินดังนั้นจึงเห็นควรให้ปล่อยตัว Charles Vane และลูกเรือไปแต่ Vane ต้องยอมเสียเรือ sloop ที่ชื่อ The Lark ให้กับเรือหลวง HMS Phoenix
ความน่ากลัวของ Charles Vane
Vane กลายเป็นโจรสลัดที่น่าเกรงขามอันนื่องมาจากความโหดเหี้ยมที่เขาทำกับตัวประกันที่เขาจับได้ หลังจากที่เขากลายมาเป็นโจรสลัดการกระทำของเขาก็ถูกรายงานไปยังผู้ว่าการแห่ง Bermuda ว่าเขาได้กระทำการทรมานตัวประกัน เขาฝ่าฝืนกฏของโจรสลัด โกงเงินรางวัลของลูกเรือตัวเอง และฆ่าตัวประกันที่เขาให้สัญญาว่าจะไว้ชีวิตหากยอมจำนน
เดือนเมษายน 1718 Vane มีเรือเล็กจำนวนมากที่พร้อมจะออกฏิบัติการ ในเดือนนั้นเขาสามารถจับกุมเรือสินค้าได้ถึง 12 ลำ Vane และลูกเรือของเขาปฏิบัติต่อพ่อค้าและกะลาสีเรืออย่างโหดเหี้ยมทั้ง ๆ ที่พวกตัวประกันทั้งหมดยอมจำนนและไม่ขัดขืนแล้ว มีกะลาสีคนหนึ่งถูกมัดมือมัดเท้าติดกับเสาหัวเรือ พวกโจรสลัดขู่ว่าจะยิงเขาเสียหากเขาไม่บอกที่ตั้งของสมบัติว่าอยู่ที่ไหน ความน่าสะพรึงกลัวของ Vane ทำให้การค้าในบริเวณนั้นหยุดชะงัก
Assassin’s creed IV Black Flag Charles Vane Concept Art
ยึด Nassau
หลังจากที่ Charles Vane ได้รับการปล่อยตัวจากเรือหลวง HMS Phoenix เขาก็ปฏิเสธการเข้ารับพระราชทานอภัยโทษทันทีและกลับไปเป็นโจรสลัดอีกครั้ง เขารู้ว่าผู้ว่าการคนใหม่ Woodes Rogers จะเดินทางมาถึงที่นี่เร็ว ๆ นี้ จึงตัดสินใจจะสร้างชื่อเสียงของตัวเขาเองเพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ที่ Nassau ดังนั้นเขาจึงเริ่มออกเดินทางยึดเรือโจรสลัดที่ดูดีสักลำหนึ่ง ไม่ช้าเขาก็ได้เรือปืนใหญ่สัญชาติฝรั่งเศสมาไว้ในครอบครอง และใช้เป็นเรือหลัก ในช่วงเดือนมิถุนายน และ กรกฎาคม ปี 1718 เขายึดเอาเรือสินค้ามาไว้ได้มากมาย มากเกินพอที่จะทำให้ลูกเรือของเขามีความสุข Vane จึงเดินทางกลับสู่ Nassau ด้วยความยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยมีเป้าหมายจะยึดเมือง Nassau
หนีการจับกุม
วันที่ 24 กรกฎาคม Charles Vane และลูกเรือของเขากำลังเตรียมการจะออกเรืออีกครั้ง แต่ในขณะนั้นมีเรือรบหลวงลำหนึ่งแล่นตรงมายังท่าเรือต่อด้วยผู้ว่าการคนใหม่ที่ตามมาทีหลัง Vane คุมท่าเรือและยึดป้อมเอาไว้หมดแล้ว เขาสร้างความประทับใจ(ในทางไม่ดี)ให้กับกองเรือรบหลวงด้วยการยิงปืนใหญ่ไปยังเรือรบหลวงทันที และส่งจดหมายไปยังผู้ว่าการ Woodes Rogers ให้ออกคำสั่งให้เขาได้ขนทรัพย์สินทั้งหมดที่เขาปล้นมาได้ออกไปก่อนที่เขาจะเข้ารับการพระราชทานอภัยโทษ เขารู้ตัวดีว่าคำขอนี้คงไม่เป็นผล ตกดึกคืนเดียวกันนั้นเขาจึงเผาเรือลำหนึ่งของเขาและส่งเรือตรงออกไปยังกองเรือรบหลวงที่ทอดสมออยู่นอกชายฝั่ง หวังจะให้เรือระเบิดสร้างความเสียหาย แต่ว่ากองเรือรบหลวงสามารถแล่นเรือถอยหนีออกมาได้ทัน แต่ Vane และลูกเรือของเขาหนีไปได้
เข้าพบ Blackbeard
Vane ยังคงกระทำการเป็นโจรสลัดต่อไปและประสบความสำเร็จมากมายแต่เขาก็ยังคงตั้งเป้าหมายถึงการยึดเมือง Nassau ให้มาอยู่ภายใต้การควบคุมของโจรสลัดให้ได้ เขาจึงเดินทางไปยัง North Carolina ที่ซึ่งจอมโจรสลัด Edward “Blackbeard” Thatch อาศัยอยู่ ในเดือนตุลาคมปี 1718 ลูกเรือต่างพากันสังสรรค์ทั้งสัปดาห์ที่ชายฝั่งเกาะ Ocracoke Charles Vane พยายามโน้มน้าวเพื่อนเก่าให้มาร่วมแผนการโจมตีเมือง Nassau แต่ได้รับการปฏิเสธ โดย Blackbeard ให้เหตุผลว่ามันได้ไม่คุ้มเสีย
ถูกขับไล่
วันที่ 23 พฤศจิกายน 1718 Vane ออกคำสั่งให้โจมตีเรือรบหลวงฝรั่งเศส แต่ Vane พ่ายแพ้และสั่งให้ถอนทัพ แต่ลูกเรือของเขาซึ่งนำโดย Calico Jack Rackham ต้องการจะต่อสู้และยึดเรือฝรั่งเศสมาให้ได้ทำให้เกิดการแตกออกเป็น 2 ฝ่าย ในวันต่อมาเหล่าลูกเรือจึงปลด Vane ออกจากตำแหน่งกัปตันเรือและแต่งตั้ง Rackham เป็นกัปตันเรือคนใหม่แทน ดังนั้น Rackham จึงมอบเรือ sloop เล็ก ๆ ลำหนึ่งให้ Vane และลูกเรือที่สนับสนุนเขาอีก 15 คนไป สองโจรสลัดจึงขาดจากกันในวันนั้น
วาระสุดท้าย
Vane และลูกเรือยึดเรือเพิ่มได้อีกจำนวนหนึ่งจนเมื่อถึงเดือนธันวาคมก็ได้เรือมาทั้งหมด 5 ลำ พวกเขามุ่งหน้าไปยังอ่าวฮอนดูรัส แต่ไปได้ไม่นานเขาก็เจอเข้ากับพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่พัดเอาเรือของเขาจมหายไป เรือลำเล็กๆ ของเขาพังเสียหายหมดลูกเรือของเขาจมหายไปกับทะเล ใกล้ ๆ กับเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง หลังจากผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากได้ไม่กี่เดือนก็มีเรืออังกฤษแล่นมาถึง แต่โชคร้ายกัปตันของเรือสินค้าอังกฤษนามว่า Holford (บางที่บอกว่ากัปตันผู้นี้ชื่อ Holcomb) ผู้ซึ่งเคยเป็นเพื่อนกับ Charles Vane และเป็นอดีตโจรสลัด จำเขาได้และปฏิเสธที่จะพาเขาขึ้นเรือไปด้วย Holford กล่าวว่า
“Charles ข้าไม่อาจวางใจท่านให้ท่านขึ้นเรือของข้าได้ เว้นว่าท่านจะให้ข้าจับท่านในฐานะนักโทษ หรือท่านอาจจะวางแผนกับคนของข้า ตีข้าให้สลบ และหนีไปกับเรือของข้า”
ก่อนจะแล่นเรือจากไป Holford กล่าวว่าอีกหนึ่งเดือนให้หลังเขาจะกลับมาที่นี่อีก และหากว่าเขายังเจอ Vane ที่นี่เขาจะจับกุมตัว Vane และพาไปยัง Jamaica เพื่อรับโทษประหาร เวลาไม่นานนักเรืออีกลำก็แล่นมาถึง ไม่มีลูกเรือคนไหนในเรือลำนี้จำ Charles Vane ได้เขาจึงได้รับอนุญาตให้ขึ้นเรือได้ แต่โชคร้าย Cpt. Holford ได้พบกับกัปตันเรือที่ Vane อยู่กลางทะเลพอดี Cpt.Holford จึงได้รับเชิญให้มาร่วมรับประทานอาหารค่ำกันบนเรือลำนั้น
ขณะที่ Holford อยู่บนเรือลำนั้น เขาพบว่า Vane กำลังทำงานอยู่บนเรือลำนั้นพอดี Holford จึงนำเรื่องไปบอกกับกัปตันเรือลำนั้น กัปตันเรือลำนั้นจึงมอบตัวของ Vane ให้กับ Holford ทันที Cpt. Holford จึงนำตัวของ Charles Vane ไปรับโทษที่ Jamaica
ไม่มีบันทึกแน่ชัดว่าเหตุใด Charles Vane จึงถูกคุมขังอยู่นานเป็นปีกว่าจะถูกประหาร อาจเป็นไปได้ว่า Vane อาจจะติดอยู่บนเกาะร้างนั้นนานกว่าที่มีบันทึกก็เป็นได้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะกว่าจะรวบรวมตัวผู้เสียหายมาชี้ตัวเขาได้ก็ใช้เวลานาน หรืออาจเป็นไปได้อีกว่าด้วยความผิดที่เขากระทำสร้างความเสื่อมเสียให้กับเหล่าโจรสลัด กองทัพเรือและ ประชาชนมามากมายเกินอภัย พวกเขาจึงอยากให้ขัง Vane ให้ได้รับความทรมานก่อนจะถูกประหารชีวิต
Charles Vane ถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกสั่งประหารชีวิตในวันที่ 22 มีนาคม 1720 ในระหว่างการตัดสินคดีมีผู้เสียหายมากมายมาชี้ตัว Vane รวมทั้ง Cpt. Vincent Pearse ผู้บัญชาการเรือหลวง HMS Phoenix ด้วย และเมื่อถึงคราวที่ให้ Vane เบิกพยานเพื่อแก้ตัว เขากลับไม่ขอเบิกพยานเลยแม้แต่คนเดียวและไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
ในวันที่ 29 มีนาคม 1721 Charles Vane ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนขอที่ Port Royal เขาตายโดยไร้ความสำนึกผิดในสิ่งที่เขากระทำ หลังจากถูกแขวนคอ ร่างของเขาถูกแขวนประจารที่ Gun Cay ที่ท่าเรือ Port Royal เพื่อเป็นการประกาศเตือนใครก็ตามที่คิดจะกระทำการเป็นโจรสลัด
แหล่งอ้างอิง (Reference) : About.com , wikipedia , Assassin’s creed Under The Black Flag Tumblr
ไม่รู้จะสงสารหรือยังไงดี -..- ก็สมควรกับสิ่งที่ได้ทำไปแล้วละมั้งนะ แต่ทำไม black beaed ถึงมีชื่อนำว่า Edward ละนี่ (ลืมไปแล้ว) เกี่ยวอะไรกับ Edward kenway อ๊ะเปล่า@_@
ปล. Port royal ทำให้นึกถึง Jack sparrow เลย อยากให้พี่แจ๊คแกโผล่มาเหมือนกัน (หรือว่าแจ๊ค แกไม่มีตัวตนจริงๆกันนะ?)
ชื่อจริงของ Blackbeard คือ Edward Thatch ค่ะ (อันที่จริงมีอีกชื่อหนึ่งว่า Edward Teach แต่ Ubisoft บอกว่าจะขอใช้ชื่อ Edward Thatch ในเกม ถ้างั้นก็ตามนั้นแล้วกัน) เกี่ยวข้องกับ Edward Kenwey แน่นอน ประมาณว่าอาจารย์ผู้ฝึกสอนหรือเปล่าไม่รู้ แต่จากตัวอย่างแล้วน่าจะเป็นตัวละครสำคัญทีเดียวค่ะ (เดาล้วน ๆ)
ส่วน Port Royal มันเป็นสถานที่ที่โจรสลัดแทบทุกคนจะต้องเคยไปมาแล้วทั้งนั้นเลยค่ะ และเป็นที่ประหารชีวิตพวกโจรสลัดหลายคนซะด้วย