ต่อจากตอนที่แล้วนะคะ หลังจากที่ 2 พ่อลูกช่วยกันจัดการ Ben Church ได้สำเร็จ

– หลังจากจัดการ Ben Church ได้ก็มาผ่านหนึ่งเดือนแล้วที่ 2 พ่อลูกไม่ได้เจอกัน
– Haytham ยอมรับว่าคิดถึงลูก (สายสัมพันธ์ตัดยังไงก็ไม่ขาดหรอกจริงไหม)
– เขาเคยคิดว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้วเขาอยากจะให้ Assassin กับ Templar นั้นมาร่วมมือกัน แต่นั่นเป็นความคิดของเขาสมัยหนุ่ม สมัยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์ แต่หากนึกถึงปัจจุบัน สังคมโลกที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายเช่นนี้ ความฝันนั้นก็คงเป็นเพียงแค่ความฝันต่อไป
– เขาเล่าว่า ณ ขณะนี้ใน New York นั้นเต็มไปด้วยเหล่าทหาร Redcoat เดินตามถนน ยังไม่มีใครรู้เบื้องหลังที่ทำให้ New York ต้องจมในกองเพลิง เมืองนั้นถูกปกครองโดยรัฐบาลที่สวามิภักดิ์ต่ออังกฤษ และชาวเมืองก็ไม่ค่อยจะชอบใจนัก
– ขณะที่เขากำลังถามข้อมูลจากลูกน้องคนหนึ่งอยู่ Connor ก็เดินเข้ามาหา แต่เขายกมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณว่าให้ Connor หยุดรอก่อน จนกระทั่งเขาพูดจบ

– Connor เดินมาหาเขา (ตามในเกมค่ะ) ขณะที่เขากำลังคุยกับคนของเขา แต่เมื่อถามความคืบหน้ากลับพบแต่ความว่างเปล่า
– Haytham อยากจะจบเรื่องนี้โดยเร็ว เขาอยากจะให้สงครามนี้สิ้นสุดเสียที เขาต้องการรู้ว่าต่อไปพวกผู้สวามิภักดิ์ (Loyalist) จะทำอะไรอีก
– Connor จึงถามว่า แล้วพ่อจะทำอะไรต่อไป  Haytham ตอบว่า ยังไม่ทำอะไรในตอนนี้ Connor จึงบอกว่า “คิดว่าพวก Templar จะมีหูมีตาอยู่ทั่วซะอีก” Haytham ตอบว่า “เคยมี จนกระทั่งแกมาทำลายมันไปหมดนั่นแหละ”
– จากนั้น Connor ก็เสนอว่าให้ติดตามพวกทหารไปจะได้รู้ว่าพวกรัฐบาลกำลังทำอะไร สองพ่อลูกก็ตกลงตามนั้น  (ฉากที่กระโดดหยอง ๆ ไปบนซากโบสถ์ นั่นแหละค่ะ ) เพิ่มเติมฉากนี้นิดหน่อยนะคะ ในเกม 2 พ่อลูกก็แค่กระโดดตามกันไปแต่ในหนังสือนั้นแยบยลกว่านั้นนิดนึงค่ะ การที่จะได้ข้อมูลมาจำต้องล่อพวก Jaeger ออกมาค่ะเพราะพวกนี้น่าจะรู้เรื่องมากกว่าพวกทหารทั่วไป วิธีการที่จะให้พวก Jaeger ออกมาก็คือต้องหาทหารผู้เคราะห์ร้ายแล้วจัดการซะ จากนั้นรอให้ทหารลั่นระฆัง ทีนี้พวก Jaeger ก็จะออกมาให้จับแล้ว
– ที่นี้จะขอเล่าฉากในหนังสือก่อนนะคะ ในหนังสือหลังจากได้ตัว Jaeger มาแล้วก็ทำให้ได้จดหมายมาฉบับหนึ่งด้วย
– พอได้จดหมายมา 2 พ่อลูกก็ขึ้นไปนั่งบนหลังคาแล้วอ่านจดหมาย Connor บอกว่า จดหมายถูกเข้ารหัส  Haytham จึงบอกว่า เขารู้วิธีการถอดรหัส เพราะว่ารหัสพวกนี้ Templar เป็นคนคิดค้น Haytham ก็อ่านจดหมายถอดรหัสให้ Connor ฟัง (ไม่แปลจดหมายนะคะ เพราะไม่มีอะไรสลักสำคัญ)
– Haytham บรรยายว่า Trinity Church ที่ตั้งอยู่ ตัดกับถนน Broadway กับ Wall street นั้นทำให้เขานึกถึง Queen Anne’s square ขึ้นมา โบสถ์แห่งนี้ถูกเผาไม่เหลือซากในช่วงปี 1776 (เจ้าของบล็อกเคยไปมาแล้วค่ะโบสถ์ Trinity Church ตอนนั้นเค้ากำลังปรับปรุงโบสถ์พอดี แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากนะคะ เพราะไม่คิดว่า AC III จะเอา Trinity Church มาใส่ในเกมด้วย รวมทั้งโบสถ์ King’s Chapel ในเกมฉากที่อยู่ใน Boston ด้วยค่ะ แล้วก็ St. Paul Chapel ด้วยค่ะ เหมือนมากเลย)

– จากนั้นก็ตามฉากในเกมเลยค่ะที่ไปยืนกันบนยอด Trinity Church แล้วก็แอบฟังพวกทหารคุยกัน แต่พวกทหารดันคุยวนไปวนมาไม่ได้เรื่อง Haytham เลยจัดการกระโดดลงไปร่วมวงด้วยซะเลย แล้วก็ร่วมมือกับ Connor จับเชลยมาได้ 3 คน ก่อนที่อีกคนจะหนีไป Haytham เลยสั่งให้ Connor วิ่งตามไปนั่นแหละค่ะ (ฉากในเกมนะคะ ในหนังสือไม่ได้กล่าวถึงเท่าใดนัก)
– ก็สอบสวนกันไป Haytham เล่าว่า เขานั้นค่อนข้างจะโหดกับตัวประกัน ในขณะที่พ่อของเขาสอนให้มีความเมตตา
– ได้ความจากตัวประกันคนสุดท้ายว่า พวกอังกฤษจะมาจากฟิลาเดลเฟียเพราะเมืองนั้นแตกพ่ายไปแล้ว นิวยอร์คคือกุญแจสำคัญ พวกอังกฤษจะเพิ่มกำลังพลเป็น 2 เท่า อีก 2 วันนับจากนี้
– Connor บอกว่าจะไปบอก Washington เรื่องนี้

จากนั้น  2 พ่อลูกก็เดินทางไป Valley Forge

– Haytham อยากให้ Connor เห็นธาตุแท้ของ Washington (Haytham ไม่ชอบ Washington มาก ๆ เลยค่ะตั้งแต่แรกแล้ว)

– Haytham เสนอขึ้นว่า “เราน่าจะเอาข้อมูลนั่นไปบอก Lee มากกว่ามาบอก Washington นะ”
– Connor กล่าวขึ้นว่า “ดูเหมือนพ่อจะมองว่าผมเชื่อใจ Washington สินะ”
– Haytham บรรยายไว้ในบันทึกว่า จากแคมป์ที่นี่อยู่ไม่ห่างไกลจากเผ่าของ Connor นัก นั่นอาจทำให้สายเลือดความเป็นชาวเผ่าของ Connor ตื่นตัวขึ้นก็ได้
– แล้ว Connor ก็พูดขึ้นว่า “My enemy is a notion, not a nation ทั้งอังกฤษและเทมพลาร์นั้นต่างใช้วิธีที่บังคับให้คนเชื่อฟังเป็นสิ่งที่ผิด และผมก็หวังว่าวันหนึ่งพวกที่สวามิภักดิ์ (ขอแปลแบบไม่ตรงตัวนะคะ จริง ๆ คำอังกฤษที่ใช้คือคำว่า Loyalist) ต่ออังกฤษนั้นจะคิดได้ ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน “
– Haytham ส่ายหน้า “ลูกต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการ ต่อต้านความไม่ยุติธรรม แต่นี่คือสิ่งที่มันเป็นเครื่องบ่งบอกนะลูก ว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นมาจากความอ่อนแอของมนุษย์ ทำไมลูกไม่คิดบ้างละว่า ทำไมพ่อถึงพยายามจะบอกว่า ไอ้สิ่งที่ลูกทำนั้นมันผิด”
– Connor “พ่อพูดมามากก็จริง แต่พ่อไม่ได้บอกอะไรผมเลย”
– Haytham คิดว่า ที่ Connor พูดเช่นนั้นไม่จริง เขาพยายามจะบอกแล้วแต่ Connor ไม่ฟังเลยต่างหาก และยิ่งถ้าความจริงนั้นมาจากปากเขา  Haytham คิดว่า ไอ้สิ่งเหล่านี้นั้น Connor คงอยากจะได้ยินจากไอดอลของ Connor มากกว่า คงอยากจะได้ยินจากปาก Washington

– สองพ่อลูกก็เดินไปเจอ Washington ตามตั้งใจ Washington จึงถามว่า “ลมอะไรพัดนายมาที่นี่ล่ะ”
– Haytham พบว่าเขายืนอยู่ใกล้ ๆ กับโต๊ะทำงานของ Washington พอดี เขาก็มองไปที่สองคนนั้นคุยกันแล้วก็ค่อย ๆ ขยับตัวเข้าใกล้โต๊ะนั้น เผื่อจะหาหลักฐานอะไรมาหักล้าง Washington ได้บ้าง
– Connor กับ Washington คุยกันในสิ่งที่ได้ล้วงความลับมาจากทหารอังกฤษ พอคุยกันจบ Haytham ก็พูดแทรกขึ้น เขาอ่านจดหมายลับของ Washington ในจดหมายกล่าวว่า ให้ส่งทหารไปโจมตีหมู่บ้าน แต่ให้โจมตีอย่างประนีประนอม

– Washington แก้ต่าง “เราได้รับรายงานว่าเหล่าชาวเผ่าทำงานให้กับพวกอังกฤษ ฉันก็เลยส่งคนไปหยุดการกระทำนั่น”
– Haytham ได้โอกาสที่จะแก้ตัวกับลูกแล้ว เขากล่าวว่า “ด้วยการเผาหมู่บ้านพวกเขา นำความขมขื่นไปให้พวกเขา ทำลายพวกเขาให้สิ้นซาก ด้วยคำสั่งพวกนี้ นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกสินะที่ทำแบบนี้ บอกเขาสิว่าเมื่อ 14 ปีก่อนเกิดอะไรขึ้น”
– Connor ประหลาดใจที่ได้ยินอย่างนั้น  คงเริ่มจะประติดประต่อเรื่องราวได้แล้ว Connor ยังคงยืนนิ่งไม่พูดอะไร
–  Washington บอกว่า นั่นมันเป็น 7 years war ( The French and Indian war)

– Haytham ใส่ไฟอีกนิดหน่อยเพื่อสะกิด Connor จน Connor ตะโกนบอกว่า “พอได้แล้ว ใครทำอะไรไป และทำไมต้องรอด้วย คนของเผ่าผมต้องมาก่อน” Haytham จึงทำท่าจะไปกับ Connor ด้วยแต่ว่า Connor บอกปัดว่า “ไม่…ผมกับพ่อเราจบกันแล้ว”
– Haytham จึงกล่าวว่า “ลูก”

– Connor จึงพูดว่า “พ่อคิดว่าเรียกผมว่า ลูก แล้วผมจะใจอ่อนยอมเปลี่ยนใจอย่างนั้นเหรอ พ่อรู้เรื่องพวกนี้มานานแค่ไหนแล้ว หรือจะให้ผมเชื่อว่าพ่อเพิ่งจะรู้เรื่องนี้เมื่อกี้ แม่อาจจะตายด้วยน้ำมือคนอื่น แต่ Charles Lee ไม่ต่างอะไรจากปีศาจ ทุกอย่างที่เขาทำ เขาทำตามคำสั่งของพ่อ” (จากเจ้าของบล็อก : Connor แม่งเกรียนอะ พ่อพยายามบอกตั้งหลายหนแล้วไม่ฟังเอง เฮ้อ)  จากนั้นเขาก็หันไปหา Washington แล้วกล่าวว่า “ขอเตือนคุณด้วยเหมือนกัน ถ้าขัดขวางผมละก็ ผมฆ่าคุณแน่”

** ปล. อย่าแปลกใจนะคะ ถ้าเจ้าของบล็อกจะแปลคำพูดของ Connor ด้วยภาษาค่อนข้างสุภาพ เพราะว่า Connor เป็นคนพูดเพราะจริง ๆ ค่ะ มันขัด ๆ เนอะ ข้างนอกนี่ดูเถื่อน ๆ แต่เวลาพูด กลับพูดได้สุภาพมาก คนที่ให้เสียง Connor บอกว่า เป็นเพราะ ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของ Connor ค่ะ ดังนั้นเวลาพูดอะไร เขามักจะไม่ใช้ตัวย่อ หรือ คำย่อใด ๆ เลย แต่ตัวละครทุกตัวในเกมนี้พูดเพราะจริง ๆ นะ ชอบมาก

3 ปีต่อมา 16 กันยายน 1781
– Charles Lee ได้รับมอบหมายจาก Washington ให้โจมตีทหารอังกฤษที่กำลังถอยทัพ แต่ดูเหมือนว่า Charles จะไม่ได้ทำตามโดยอาศัยช่องโหว่ทางภาษา Haytham บอกว่า ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า Charles Lee คิดอะไรอยู่ แต่ดูก็รู้เลยว่า Charles Lee เกลียด Washington มากแค่ไหน (**คิดว่า Charles Lee น่าจะเปลี่ยนคำสั่งโดยบอกว่า Washington สั่งให้ถอยทัพ แทนที่จะไปโจมตีทัพอังกฤษที่กำลังล่าถอยแทน)
– Haytham บอกว่า Charles Lee ณ ตอนนี้แตกต่างจากเด็กหนุ่มที่เขาเคยเจอครั้งแรกอย่างมาก
– Haytham ยอมรับว่าเขาเกลียด Washington ที่โจมตีหมู่บ้านของ Ziio แต่ว่า ภาวะความเป็นผู้นำของ Washington นั้น ไม่ได้นำด้วยความโหดร้าย และสงครามนี้ก็ใกล้จะจบลงแล้ว
– ครั้งสุดท้ายที่เจอ Connor นั้นก็ 3 ปีมาแล้ว
– อันที่จริงเขาก็กะจะล้างแค้นให้ Ziio ตังแต่ตอนที่เจอ Washington ที่ Forge แล้วแต่ว่าก็ไม่ทำเพราะคิดว่า บางทีเขาอาจจะคิดผิดเกี่ยวกับคน ๆ นี้ก็เป็นได้ บางทีอาจจะถึงเวลาที่จะยอมรับแล้วว่าเขาคิดผิดจริง ๆ
– Charles Lee ถูกจับ หลังจากที่เขาแสดงความไม่เชื่อฟังต่อคำสั่งของผู้นำ เขาถูกปลดออกจากตำแหน่ง แต่ก็ใช้ Fort George เป็นที่พักพิงนับตั้งแต่ถูกถอดจากตำแหน่งมา
– Charles Lee ดูเหมือนจะกลัว Connor มาก ๆ เขาแสดงให้ Haytham เห็น
– Haytham บอกว่า “นั่นคือลูกชายของฉันนะ Charles”
– Charles Lee บอกว่า “ก็นึกสงสัยอยู่แล้วเชียวว่า เด็กนั่นน่าจะเป็นลูกของแม่หญิงโมฮอว์ก ที่คุณกับเธอแอบหนีตามกันไปเมื่อตอนนั้น”
– Haytham แสดงอาการตกใจเล็กน้อย “หนีตามกันไปเหรอ..ฉันเนี่ยนะ อย่าพูดอะไรแบบนั้น Charles นายก็ได้ทำงานของนายไปแล้วนี่”
– ในระหว่างที่พูดคุยกันนั้น Haytham กับ Charles ก็คอยใช้กล้องส่องทางไกลมองออกไปทางทะเลเป็นระยะ คงจะรู้กันอยู่แล้วค่ะว่า Connor ต้องสั่งให้เรือยิงมาที่นี่แน่ ๆ
– บทสนทนาระหว่าง Charles Lee กับ Haytham ก็มีหลายส่วนที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ แต่ไม่ขอแปลหมดนะคะ เอาแค่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องในเกมก็พอ
– ไม่นานนัก Charles Lee ก็บอกว่าจะขอไปก่อนเพราะไม่อยากรอให้ Assassin ที่เป็นลูกชายของ Haytham มาที่นี่เพื่อมาสังหารเขา “คุณควรจะไปกับผมด้วยนะ อย่างน้อยเราก็นำหน้าเขาไปก้าวหนึ่ง”
– Haytham ปฏิเสธค่ะ เขาบอกว่า “ฉันคิดว่าไม่ดีกว่า บางทีนายอาจจะพูดถูกก็ได้ ฉันอาจจะทำหน้าที่ Grand Master templar ได้ไม่ดีนัก บางทีฉันก็น่าจะทำให้มันถูกต้องเสียเลย”
– Charles Lee กล่าวว่า “จะสู้กับเขาเหรอ คิดอะไรอยู่ คิดว่าจะสามารถพูดชักจูงให้เขามาอยู่ฝั่งเดียวกับเราได้เหรอ”
– Haytham “ไม่หรอก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า “Connor ไม่มีทางหันมาอยู่ฝั่งเราแน่นอน แม้ว่าจะรู้ความจริงแล้วก็ตาม อย่างที่นายพูดนั่นแหละ Connor น่ะ มีสิ่งที่เรียกว่า “ความศรัทธา”อยู่ “
– Charles “แล้วยังไงต่อ”
– Haytham “ฉันจะไม่ปล่อยให้ Connor มาฆ่านายได้หรอก” แล้ว Haytham ก็ถอดเอากุญแจที่เปิดประตู Precursor site ออกแล้วยื่นให้ Charles Lee ตอนแรก Charles Lee ไม่ยอมรับ แต่ Haytham ก็ คะยั้นคะยอให้รับไป พร้อมกับบอกว่า เขาแก่ตัวมากแล้ว คงจะสู้ Connor ไม่ไหว และเขาไม่อยากให้สิ่งที่ Templar สู้อุตส่าห์หามาด้วยความยากลำบากต้องตกไปอยู่กับ Assassin
– สุดท้าย Charles Lee ก็จากไป ส่วน Haytham ก็รอการมาของลูกชาย

คำพูดสุดท้ายของ Haytham ที่เขียนลงบันทึกนี้นะคะ

ฉัน หวังว่า Connor ลูกชายของฉันจะได้อ่านบันทึกนี้ เมื่อเขาได้รู้จักฉันอีกสักนิด เข้าใจฉันสักนิด หรือ ให้อภัยฉัน เส้นทางของฉันมันเต็มไปด้วยเรื่องโกหก การทรยศ แต่ว่าพ่อของฉันนั้นไม่เคยโกหกฉันเลย และด้วยบันทึกนี้ก็มีแต่ความจริง”

จากนั้นฉากต่อจากนี้ขอเล่าด้วยภาพนะคะ แต่จะเพิ่มรายละเอียดอีกนิดหน่อยค่ะ ฉากต่อสู้ในฉากจบในหนังสือกับในเกมจะต่างกันค่อนข้างมากค่ะ ก็เลยไม่ขออธิบายนะคะ เอาเป็นว่าเพื่อความสนุกก็อิงในเกมแล้วกันนะคะ

ฉากสุดท้ายในหนังสือที่สู้กัน ในหนังสือจะเป็นมุมมองของ Connor ค่ะเขาพยายามจะบอก Haytham ว่าให้ยอมแพ้ซะ เขาก็คิดเหมือนกันว่าถ้าหากว่าหันมาร่วมมือกันน่าจะดีกว่านี้ ตอนเล่นในเกมพยายามอย่าเพิ่งไปกดอะไรมากนะคะ กดป้องกันไปเฉย ๆ ก่อน จะได้ฟังบทสนทนาระหว่างสองพ่อลูกเต็ม ๆ จะเข้าใจมากขึ้นค่ะ

(**เพิ่มเติม ยังจำตอนที่ Connor นั่งทำหน้าเศร้าพูดกับ Achilles ได้ไหมคะ เขาบอกกับ Achilles ว่า Templar กับ Assassin น่าจะรวมกันได้นะ และเขาก็ไม่อยากจะไปฆ่า Charles Lee แล้วเพราะว่าถ้าไปก็ต้องไปเจอกับพ่อแน่นอน เขาก็ยอมรับค่ะว่าก็คิดถึงพ่ออยู่เหมือนกัน (ถ้าจำไม่ผิดนะ บางทีชอบเอาในเกมกับในหนังสือมาปนกัน) )

หลังจากที่ฆ่าพ่อไปแล้ว Connor ไม่ได้เดินจากไปซะเฉย ๆ นะคะ เขาก้มลงปิดตาพ่อแล้วก็เดินจากไป คือในหนังสือจะลึกซึ้งกว่าในเกมค่ะ ซึ่งถ้าในเกมกับในหนังสือเหมือนกันคนคงจะไม่ด่า Connor อย่างที่เป็นอยู่แน่นอน เพราะว่าเขาไม่ใช่คนแข็ง ๆ ทื่อ ๆ อย่างในเกมค่ะ

หลังจากจัดการ Haytham เสร็จเป้าหมายต่อไปก็คือ Charles Lee ซึ่งก็ยืนยันตามในเกมแล้วกันค่ะ

จัดการ Charles Lee เสร็จก็เดินกลับไปที่เผ่าแต่ก็พบกับความว่างเปล่าทุกคนย้ายกันไปหมดแล้ว

หลังจากนั้น Connor ก็กลับมาขุดหลุมฝังสร้อยคอที่เป็นกุญแจเปิดประตู ระหว่างขุด Connor ก็พูดเชิงตัดพ้อประมาณว่า

“พ่อ แม่ ผมนั้นล้มเหลว แม่ ผมไม่อาจจะรักษาหมู่บ้านไว้ได้ ที่คิดว่าถ้าจัดการกับ Templar หมู่บ้านเราจะปลอดภัย แต่ก็ไม่ใช่อย่างนั้น พ่อ ผมคิดว่าอยากจะให้ Templar กับ Assassin นั้นร่วมมือกันแล้วลืมความหลังทั้งหมดที่เคยมี นี่เราต้องเกิดมาเพื่อต่อสู้กันอย่างนั้นเหรอ เราเกิดมาเพื่อทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างนั้นหรือ”

และนี่คือไฟล์เสียงที่ไม่มีในเกมค่ะ แต่นี่คือเสียงจริง ๆ นะคะ ของจริงแน่นอนค่ะ ฟังเลยว่า Connor พูดว่าอย่างไร เจ้าของคลิปเค้าเอาหลาย ๆ ช่วงของ Connor มาเรียงต่อกันแล้วพบว่า จริง ๆ แล้ว Connor พูดเหมือนในหนังสือเป๊ะ ๆ เลยค่ะ

คลิปข้างบนนี้แนะนำให้กดฟังทุกอันเลยนะคะ เพราะว่าเป็นซีนที่เค้าลบทิ้งค่ะ เจ้าของคลิปเค้าบอกว่าข้อมูลเหล่านี้มันมีในหนังสือ Assassin’s creed Encyclopedia ฉบับที่ 2 ค่ะ มีใครอยากเป็นแฟนพันธ์แท้ซีรี่ย์นี้บ้างไหมคะ แนะนำให้ซื้อด่วนเลยค่ะ (เจ้าของบล็อกยังไม่เคยมีสักเล่มเลยค่ะ เอาไว้ถ้ามีตังค์จะซื้อมากอด มาดม ให้ชื่นใจ อิอิ)

และอีกอันค่ะ จาก Haytham ถึง Connor

ประมาณ นี้นะคะ ไม่ขอแปลหมด อยากให้ไปหาอ่านกันเองค่ะ มันได้อารมณ์กว่าเจ้าของบล็อกแปลแน่นอนค่ะ 😀

แล้ว Assassin’s creed Forsaken ก็จบลงเท่านี้ค่ะ เป็นไงกันบ้างคะ เนื้อเรื่องเต็ม ๆ ของ Forsaken ใจจริงอยากให้ไปซื้ออ่านกันเองมากกว่าค่ะเพราะภาษาอังกฤษของเจ้าของบล็อกก็ไม่ได้แตกฉานอะไร บางประโยคก็แปลไม่ออกก็ข้ามไปเลยก็มี บางประโยคก็อาจจะแปลผิดความหมายไปเลยก็ได้ ยังไงก็ขออภัยนะคะ

อยากให้นักอ่านทุกท่านที่ผ่านเข้ามาช่วยกันแนะนำ เพื่อที่จะแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นค่ะ ที่ผ่านมามีแต่นักอ่านทั้งนั้นเลย อยากให้ช่วย ๆ กันแสดงความเห็นกันสักนิด หรือกด Like ก็ได้ค่ะ จะเป็นกำลังใจให้เจ้าของบล็อกมาก ๆ เลยค่ะ แล้วก็ถ้าจะนำไปอ้างอิงที่ไหน ก็ช่วยใส่เครดิตให้สักนิดนะคะ จะเป็นพระคุณอย่างมากเลยค่ะ 😀