คำตอบนั้นง่ายมาก เพราะ Chicago เป็นเมืองที่ต้องมีการเฝ้าระวังมากที่สุดเมืองหนึ่งในสหรัฐอเมริกา แต่เชื่อหรือไม่ว่านี่ไม่ใช่แค่เหตุผลเดียวที่เมืองนี้ถูกเลือกให้เป็นเมืองในเกม Watch Dogs ในอีกนัยหนึ่ง สาเหตุที่เมืองหลักของชาวอเมริกันเมืองนี้ได้รับเลือกนั่นก็เพราะบรรยากาศ และ ความรู้สึกที่น่าทึ่งในความลึกลับของเมืองนี้ ความรู้สึกอันเป็นเอกลักษณ์ในเมือง Chicago นั้นเหมาะแก่การสำรวจไปทั่วเมืองในเกม จากบทสัมภาษณ์ของ Senior Producer คุณ Dominic Guay
“เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยงาม” ด้วยสถาปัตยกรรมที่เห็นแล้วต้องตกตะลึง และความหลากหลายของเมือง “มีแม่น้ำไหลผ่านย่าน Downtown นอกจากนี้ Chicago ยังเป็นเมืองที่มีการก่ออาชญากรรมที่เยอะมาก มีประวัติการก่ออาชญากรรม และ การคอรัปชั่น เมืองเคยเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่* แต่ว่าก็สามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นเมืองที่สุดยอดได้” คุณ Dominic Guay กล่าว
คุณ Kevin Shortt หัวหน้าทีมเขียนบท กล่าวว่า ความสามารถในการอยู่รอดและการเติบโตของเมืองคือหัวใจสำคัญ “เรารักเมืองนี้เพราะว่าประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของเมือง เมืองเคยถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ เมืองนี้มีพวกแก๊งก่ออาชญากรรมมากมาย เมืองต้องประสบปัญหาเหล่านี้เสมอ และเมืองก็ยังคงก้าวหน้าต่อไป “
Chicago ไม่ได้เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเมืองแห่งอนาคตด้วย “เมืองนี้เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ด้านเทคโนโลยี” คำกล่าวของคุณ Colin Graham, animation director ” Chicago เคยเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Fair** พอเรามองมาที่เมืองนี้ เราก็เห็นเลยว่าเมืองนี้มีตึกหลายตึกที่เหมาะกับเกมนี้ เป็นส่วนประกอบอย่างดีสำหรับเกมของเรา”
บก , น้ำ , อากาศ
นำพาเราไปสู่คำถามใหญ่อีกคำถามหนึ่ง อะไรที่ทำให้ Chicago เหมาะสำหรับเกม Watch Dogs ? นอกจากการแฮคแล้ว…
“Chicago เป็นเมืองใหญ่ทีเดียวสำหรับเกมหนึ่งเกม” คุณ Kevin Shortt กล่าว “คุณมีสะพานและถนน มี Millenium Park มีที่อีกมากมายให้คุณเที่ยวชมได้โดยรอบ นั่นทำให้เกมนี้นั้นมีรูปแบบการเล่นที่ยอดเยี่ยม”
Chicago เป็นเมืองที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดเมืองหนึ่งในอเมริกา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับเกม “คุณไม่สามารถใช้เครื่องบิน หรือ อะไรทำนองนี้ได้ ” คุณ Guay ยิ้ม “มันไม่ใช่สิ่งที่เราอยากจะให้มีเลยในเกม Watch Dogs” ทีมงานได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Assassin’s creed ในส่วนของรูปแบบการเล่นในเกม “หากว่าผู้เล่นเห็นที่ไหนที่น่าจะปีนได้ เราก็อยากจะให้เขาปีนได้จริงๆ อยากจะสูงแค่ไหนก็ตามแต่ใจต้องการเลย หากว่าหาทางปีนไปได้เรื่อย ๆ ละก็นะ เราก็มีเทคโนโลยีที่สนับสนุนให้ทำแบบนั้นได้อยู่แล้ว”
“อย่างที่คุณได้เห็นผมปีนขึ้นไปแฮคตึกในตัวอย่างเกมมาแล้ว” คุณ Graham กล่าวถึงอีกบทความหนึ่งเกี่ยวกับ 61 อย่างที่ผู้เล่นจะเจอใน Watch dogs (*เจ้าของบล็อกไม่ขอแปลนะคะ) “เรามีอะไรแบบนั้นให้ เช่น การกระโดด วิ่งข้ามสิ่งกีดขวาง (Parkour and free-run) คุณสามารถขึ้นไปยังบนหลังคาที่ไหนสักแห่งได้ ไม่ต้องถูกไล่ล่าบนหลังคา แต่คุณสามารถแฮครถไฟสาย L และขึ้นรถไฟไป ทดลองเล่นเซิร์ฟได้ด้วยนะนั่น”
ไม่ใช่แค่การปีนขึ้นที่สูงอย่างเดียว Chicago ยังมีเมืองใต้ดินอีกด้วย *** “Chicago ถูกสร้างขึ้นบนพื้นดิน แต่ก็ยังมีอีกชั้นหนึ่งของเมืองที่เป็นแหล่งขนส่งและกระจายสินค้า สินค้าตามร้านค้าต่าง ๆ ถูกเติมให้เต็มจากด้านล่างของเมือง” คุณ Guay เสริม “มีแหล่งค้าขาย เช่น บาร์ คุณสามารถเข้าไปที่บาร์ได้ผ่านชั้นใต้ดิน และยังมีอีกลูกเล่นหนึ่งที่เราใส่ไว้นั่นคือ การเดินทางจากเมืองที่อยู่ข้างบนเพื่อไปยังเมืองที่อยู่ข้างล่าง”
Chicago เป็นเมืองที่มีชื่อเสียง เพราะมีแม่น้ำตัดผ่านเมือง ทำให้แบ่งเมืองออกเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน เมื่อร่องเรือไปยังที่ต่าง ๆ ก็มีสะพานมากมายให้แฮคได้ ตลอดแม่น้ำทั้งสายก็มีทางเชื่อมต่อให้ไปยังส่วนใต้ดินของเมืองได้ “คุณสามารถร่องไปตามแม่น้ำและทะเลสาปมิชิแกนได้ เพราะเราได้สร้างระบบบังคับเรือเอาไว้ให้” คุณ Graham เล่าเสริมอีกว่า “แต่ว่ามันก็บังคับลำบากสักหน่อยหากว่ามีฝนตกในตอนกลางคืน”
ความหลากหลายและความแตกต่าง
Chicago เป็นเมืองที่มีความแตกต่างที่ชัดเจน มีทั้งส่วนที่รวยที่สุดและส่วนที่จนที่สุด “ส่วนที่แย่ที่สุดของเมืองนั้นมีอัตราการก่ออาชญากรรมสูงกว่าส่วนที่ดีที่สุดถึง 30 เท่า” คุณ Guay กล่าว “นี่ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจมากที่เราอยากใส่เข้าไป เราอยากแยกสองพื้นที่นั้นออก ทั้งเรื่องของภาพพจน์และผู้คนที่เดินตามท้องถนน เมื่อคุณเริ่ม Profile พวกเขา คุณก็จะเห็นระดับรายได้และหน้าที่การงานที่ต่างกัน มันจึงไม่ใช่แค่เรื่องของกราฟฟิคเท่านั้น แต่เป็นกระแสข้อมูลของคนในพื้นที่ที่กำลังต่างกันมากขึ้น”
การผสมผสานกันอย่างยากลำบางระหว่างส่วนที่แย่ที่สุดกับส่วนที่ดีที่สุดของเมืองคือความละเอียดละออที่เกิดขึ้นในเกม Watch Dogs และตัวของ Aiden Pearce ด้วยเช่นกัน “เกมนี้มันดิบเถื่อน” คุณ Graham กล่าว “ใช้ได้ทั้งความรุนแรงและสติปัญญา สำหรับ Aiden แล้วทั้ง 2 อย่างมันสมดุลย์กันระหว่าง ความฉลาดกับความรุนแรง คนโง่มักใช้ความรุนแรงเพราะว่านั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาเข้าใจได้ คนฉลาดนั้นรู้ได้ว่าพวกเขาจะหาวิธีการเพื่อจะผ่านสถานการณ์นั้น ๆ ไปได้อย่างไร มีแต่คนฉลาดจริง ๆ เท่านั้นที่เข้าใจความสมดุลย์ระหว่างความรุนแรงกับสติปัญญา และมีบางสถานการณ์ที่คุณจำเป็นต้องใช้ความรุนแรงเข้าสู้เพื่อให้รอดพ้นมาได้ Aiden คือผู้ชายประเภทนี้ เขาเป็นนักสู้ชีวิต มีภารกิจมากมายที่มีเหตุผลเพียงพอที่เขาจะทำด้วยวิถีของเขา”
และแน่นอนว่าเราไม่ลืมว่า Chicago เป็นเมืองที่ถูกจับตาดูอยู่ตลอดเวลา “มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่เป็นพัน ๆ ตัวภายใต้วงเน็ตเวิร์คเดียวกัน โดยถูกควบคุมจากศูนย์กลางแห่งหนึ่ง พวกเขาสามารถใช้กล้องเหล่านี้ติดตามชาวเมืองรอบ ๆ เมืองได้” คุณ Guay กล่าว “พวกเขาสามารถอ่านเศษกระดาษชิ้นเล็กได้ ก็แค่ซูมเข้าไป และนั่นก็เป็นข้อมูลที่สร้างแรงบันดาลใจในเกม Watch Dogs” แต่ Chicago ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เมืองนี้มีเอกลักษณ์ของตัวเองแต่ก็เป็นเมืองที่อัดแน่นไปด้วยความเป็นอเมริกา เป็นเมืองที่มีศักยภาพที่จะให้เกม Watch Dogs มีชีวิตขึ้นมาจริง ๆ
แหล่งอ้างอิง (Reference) : UbiBlog
* เหตุไฟไหม้ใหญ่ที่ชิคาโก้ กินเวลานานติดต่อกันเกือบ 3 วัน ในเดือนตุลาคม ปี 1871 กินพื้นที่ถึง 9.2 ตารางกิโลเมตร
** งานแสดงเทคโนโลยีระดับโลก
*** Chicago Pedway อุโมงค์ส่งสินค้าใต้ดินของชิคาโก้
ปล. โลโก้ประจำเกม Watch dogs คุณ Danny Belager , Lead Game Designer ให้สัมภาษณ์ไว้ใน Tobuscus Interview ว่า โลโก้นั้นเป็นรูปใบหน้าของ สุนัขจิ้งจอก แต่คิดว่าน่าจะมีอะไรซ่อนไว้ในรูปมากกว่านั้นอีก คงต้องติดตามกันต่อไป
เป็นเมืองที่น่าสนใจดีฮะ
ปล. เปลี่ยนหน้าเพจใหม่ ตกใจเลย =[]=
เบื่อแบบเก่าแล้วก็เลยนั่งหาหน้าตาอันใหม่ ๆ มาทดลองเปลี่ยนดูค่ะ